ฟักทอง ถ้าเอามาแกงเรียกเป็นผัก ถ้าเอามาทำขนมเรียกเป็นผลไม้ ในทาง สมุนไพรไทย ฟักทองเป็นพืชที่ให้พลังงานต่ำ มีไขมันน้อย
เหมาะแก่คนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก มีกากใยสูงสามารถช่วยระบบขับถ่ายได้ดี เนื้อฟักทอง มีวิตามินเอสูง รวมทั้งฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี แป้ง มีเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ในเนื้อสีเหลืองของฟักทอง สามารถช่วยลดการเกิดมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจได้ แถมเบต้าแคโรทีน ยังช่วยต้านความชรา ป้องกันโรคผิวหนัง บรรเทาอาการปวดเมื่อยของข้อเข่า และบั้นเอวได้เป็นอย่างดี
คุณประโยชน์ของฟักทอง
1. ฟักทองมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยในการชะลอวัยความแก่ชรา
2. ช่วยฟื้นบำรุงสุขภาพผิว ให้เปล่งปลั่งสดใส และช่วยปกป้องผิวไม่ให้เหี่ยวย่น
3. ประโยชน์ฟักทอง ช่วยบำรุงและรักษาสายตา
4. ฟักทองมีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพร่างกาย
5. ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
6. น้ำมันจากเมล็ดฟักทองมีส่วนช่วยบำรุงประสาท
7. เมล็ดฟักทองช่วยทำให้อารมณ์ดี เพราะมีสารที่ช่วยในการสร้าง Serotinin ซึ่งมีผลต่ออารมณ์
8. มีฤทธิ์ในการช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
9. เป็นอาหารที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักหรืออยากลดความอ้วน เพราะมีไขมันน้อยกากใยสูง
10. ฟักทองมีกรดโปรไพโอนิคซึ่งมีส่วนทำให้เซลล์มะเร็งอ่อนแอลง
11. มีส่วนช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็ง
12. มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจ
13. ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยบริเวณข้อเข่า บั้นเอว
14. มีส่วนช่วยป้องกันโรคผิวหนัง
15. เปลือกฟักทองมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการหลั่งอินซูลินในร่างกาย ซึ่งช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน
16. ช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังออกกำลังกายหลังจากร่างกายทำงานอย่างหนัก และทำให้กล้ามเนื้อทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
17. รากฟักทองนำมาต้มกับน้ำดื่มช่วยแก้และบรรเทาอาการไอ
18. ฟังทอกจัดว่ามีกากใยอาหารสูง ซึ่งมีส่วนช่วยในการขับถ่าย
19. ฟักทองมีฤทธิ์อุ่นซึ่งจะช่วยย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี
20. ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ
21. สรรพคุณของฟักทอง มีส่วนช่วยในการขับปัสสาวะ
22. สรรพคุณฟักทอง ช่วยป้องกันการเกิดโรคนิ่ว
23. ช่วยป้องกันไม่ให้ต่อมลูกหมากขยายใหญ่มากขึ้น
24. ช่วยปรับระดับฮอร์โมนเพศชายที่ได้จากลูกอัณฑะให้อยู่ในระดับปกติ
25. ช่วยขับพยาธิตัวตืด โดยนำเมล็ดฟักทองประมาณ 50 กรัม นำมาตำให้ละเอียดแล้วผสมกับน้ำตาล นม และเติมน้ำลงไปจนได้ประมาณ 500 มิลลิลิตร แล้วนำมาแบ้งรับประทานเป็น 3 ครั้ง ทุกๆ 2 ชั่วโมง
26. ช่วยบำรุงตับและไตให้แข็งแรง
27. รากฟักทองเมื่อนำมาต้มดื่มจะช่วยถอนพิษจากแมลงกัดต่อย ถอนพิษของฝิ่นได้
28. เยื่อกลางของผลฟักทอง สามารถนำมาใช้พอกแผล แก้อาการฟกช้ำ อาการปวด และอักเสบได้
29. ใช้รับประทานเป็นอาหารว่าง อย่าง น้ำฟักทองคั้นสด พายฟักทอง
30. นำมาใช้ในการประกอบอาหารได้ย่างหลากหลาย เช่น ซุปฟักทอง แกง กินกับน้ำพริก เป็นต้น
คุณค่าทางโภชนาการของฝักทอง ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 26 กิโลแคลอรี่ประโยชน์ของฟักทอง
คาร์โบไฮเดรต 6.5 กรัม
น้ำตาล 2.76 กรัม
เส้นใย 0.5 กรัม
ไขมัน 0.1 กรัม
โปรตีน 1 กรัม
วิตามินเอ 476 ไมโครกรัม 53%
เบต้าแคโรทีน 3,100 ไมโครกรัม 29%
ลูทีน และ ซีแซนทีน 1,500 ไมโครกรัม
วิตามินบี1 0.05 มิลลิกรัม 4%
วิตามินบี2 0.11 มิลลิกรัม 9%
วิตามินบี3 0.6 มิลลิกรัม 4%
วิตามินบี5 0.298 มิลลิกรัม 6%
วิตามินบี6 0.061 มิลลิกรัม 5%
ฟักทองวิตามินบี9 16 ไมโครกรัม 4%
วิตามินซี 9 มิลลิกรัม 11%
วิตามินอี 0.44 มิลลิกรัม 3%
วิตามินเค 1.1 ไมโครกรัม 1%
ธาตุแคลเซียม 21 มิลลิกรัม 2%
ธาตุเหล็ก 0.8 มิลลิกรัม 6%
ธาตุแมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม 3%
ธาตุแมงกานีส 0.125 มิลลิกรัม 6%
ธาตุฟอสฟอรัส 44 มิลลิกรัม 6%
ธาตุโพแทสเซียม 340 มิลลิกรัม 7%
ธาตุโซเดียม 1 มิลลิกรัม 0%
ธาตุสังกะสี 0.32 มิลลิกรัม 3%
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)
แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี, USDA National Nutrient Database และ frynn.com
|