สวัสดีครับพี่น้องขาวเกษตรทุกท่าน สำหรับวันนี้ผมมีพืชพื้นๆที่สามารถทำรายได้ นอกเหนือจากการทำนา สำหรับผู้ที่ทำนาปีเพียงอย่างเดียว หลังจากนั้นเราก็ปล่อยให้ที่ดินของเราว่างเปล่าอยู่หลายเดือน ถ้าคิดมูลค่าแล้ว บอกได้เลยว่า เสียเปล่าไปไม่ใช่น้อยครับ นอกจากปลูกขายได้แล้ว ต้นถั่วยังจัดว่าเป็นปุ๋ยชั้นดีที่ช่วยให้ต้นข้าวของเรางามราวกับใช้ปุ๋ยกระสอบเป็นพันๆเลยละครับ..
ทำไมต้องเป็นถั่วลิสง? เหตุผลง่ายๆที่พอจะทำใจยอมรับได้ก็คือ ถัวลิสงไม่ต้องการน้ำปริมาณมากๆในการปลูก เพียงแค่ดินมีความชื้นอยู่บ้างก็ปลูกได้แล้วครับ (ถ้ามีน้ำเยอะก็คงทำนาปรังกันไปแล้วอะนะ) ว่ากันมายาวละเข้าเรื่องกันเลยละกัน เกษตรกรทุกวันนี้ยิ่งใจร้อนอยู่ด้วย เดียวจะขัดใจเอาง่ายๆเนอะ
ขั้นตอนแรก การเตรียมดิน หลังจากที่เราทำนาเสร็จแล้ว ก็ทำการตัดตอซังข้างออกให้หมดถ้ามีนะ ถ้าไม่มีก็ทำการไถพวนดิน 3-4 รอบ โดยแต่ละรอบให้ทำการคราดพรวนดินทันที ทิ้งไว้ 5-7 วันในแต่ละรอบ (รวมเตรียมดิน ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน)
***เราสามารถลดต้นทุนใสการไถให้เหลือเพียง 2 รอบก็ได้หากว่าดินของเราร่อนดีอยุ่แล้วครับ และการไถอาจใช้การยกร่องเพื่อรักษาความชื้นให้อยู่ได้นานขึ้นก็ดีครับ
ขั้นตอนที่ 2 การเตรียมเมล็ดพันธุ์ ทำการแกะถั่วลิสงออกจากเปลือกเพื่อเลือกเมล็ดที่สมบูรณ์(เหมาะแก่การเป็นเมล็ดพันธุ์) และทำให้งอกได้เร็วกว่าการปลูกทั้งฝัก และช่วยให้ลดเวลาในการเก็บเกี่ยวได้เยอะเลยทีเดียวครับ
***การเลือกเมล็ดพันธุ์ให้เหมาะสมสามารถเพิ่มผลผลินให้เราได้ครับ แต่ต้องแน่ใจว่าเหมาะกับดินและสภาพอากาศของเราด้วยนะครับ
ขั้นตอนที่ 3 การปลูกเมล็ดพันธุ์ลงในดิน ขุดหลุมลึกประมาณ 15 เซ็นติเมตร หลอดเมล็ดพันธุ์ลงในดิน 3-5 เมล็ดแล้วกลบ จากนั้น นำซังข้าวมาคลุมผิวดินไว้ 15 วันเพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื่นของพื้นดิน เพิ่มเปอเซ็นต์การงอกของเมล็ดพันธุ์ได้ดีครับ
***เพื่อให้ได้ผลผลิตที่สูงขึ้น ผมแนะนำใส่ปุ๋ยเพื่อเร่งการเจริญเติบโตลงไปพร้อมกับการหยอดเมล็ดพันธ์เลยครับ อัตรา 20-25 กิโลกรัมต่อไร่ แนะนำสูตร 15-15-15 ครับ
ขั้นตอนที่ 4 วัชพืช และแมล็งศัตรูพืช ในความเป็นจริงแล้ว ในการปลูกถัวลิสงในช่วงหน้าแล้ง หลังการทำนา แทบจะไม่มีวัชพืช หรือเสี้ยนดิน เลยก็ได้ เพราะพื้นดินเพิ่งผ่านการถูกน้ำขังมานั้นเอง แต่ถ้าหากว่าจะมีบ้างก็แนะนำให้ถอนทิ้งก็เพียงพอแล้วครับ
ขั้นตอนที่ 5 การเก็บเกี่ยวผลิตผล เมื่อครบ 60 วัน(โดยประมาณ ควรตรวจสอบจากการสุ่มถอนซะก่อน) ถอนต้นถัวออกจากพื้นดินด้วยมือ แล้วเก็บผักตากแดด เพื่อการส่งขายต่อไปครับ
***อีกอย่างที่คนทั่วไปไม่รู้ก็คือ ถัวลิสงที่เก็บจากตันใหม่ๆนั้น เมื่อนำมาต้มจนสุกแล้วอร่อยกว่าที่คนกรุงเทพฯกินกันอย่างแน่นอนครับ
เมื่อเก็บเกี่ยวแล้วต้นถัวอย่านำไปทิ้งครับ ไถกลบไว้เพื่อให้เป็นปุ๋ยรับรองว่า ทำนาครั้งต่อไป ข้าวของเราจะงามโดยไม่ต้องใส่ปุ๋ยเลยละครับขอบอกกกกก
สำหรับผลผลิตที่จะได้รับคร่าวๆ ต่อไร่ให้ผลผลิต ประมาณ 250 กิโลกรัม ราคาขายกิโลกรัมละ 10 บาท(250X 10=2500) ต้นทุนเฉลี่ย 1500-1900 บาทต่อไร่ มีกำไรอย่างน้อยๆ 500-600 บาทต่อไร่ ถ้าปลูกสิบไร่ ก็คูณ 10 เข้าไป ก็ราวๆ 5,000-6,000 บาทครับ ถึงไม่มากมายอะไรแต่ก็ดีกว่าปล่อยให้ผืนดินของเราว่างเปล่าขาดรายได้นะครับผมว่า แถมยังได้ปุ๋ยจากต้นถัวใส่ข้าวได้อีกด้วย คุ้มครับ