เชื่อว่าเพื่อนๆ พี่ๆ ชาวฟาร์มไทยแลนด์ คงมีจำนวนไม่น้อยที่กำลังฝันหวานถึงสวนกล้วยไม้แสนสวย กลิ่นหอม ที่สร้างกำไรเป็นกอบเป็นกำ แต่เพื่อนๆรู้กันไหมครับมีคนจำนวนไม่น้อยที่กระโดดเข้ามาทำสวนกล้วยไม้อย่างจริงจัง ดีบ้าง เจ๊งบ้าง ต่างกันไป ซึ่งก็มีปัจจัยหลายๆอย่างเป็นสวนประกอบ ไม่ว่าจะเป็นความชอบส่วนตัว ความรู้จากที่พ่อแม่เคยทำมา หรือว่าผลกำไรที่งามล่อใจ และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญนั่นก็คือต้นทุน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ๆในทุกๆธุรกิจครับ และก่อนที่เราจะไปดูเรื่องต้นทุน ผมอยากจะให้คุณตอบปัญหหาไม่กี่ข้อเหล่านี้ให้ได้ซะก่อน ถ้าคุณยังตอบไม่ได้ นั่นแสดงว่าคุณยังไม่พร้อมที่จะเริ่มทำธุรกิจนี้ หรือธุรกิจไหนๆ ด้วยครับ
1. คุณจะขายกล้วยไม้ของคุณให้ใคร และทำไมคนที่คุณกำลังจะเรียกว่าลูกค้าต้องซื้อกล้วยไม้จากคุณ?
2. ขายอย่างไร ขายที่ไหน ราคาเท่าไหร คุ้มทุนหรือไม่ ใช้เวลาคืนทุนนานไหม?
3. จะทำอย่างไรให้คนรู้ว่าคุณมีกล้วยไม้พร้อมขายให้กับพวกเขาแล้ว?
4. จะต้องมีทุนสูงขนาดไหน และจะเอาต้นทุนดังกล่าวมาจากแหล่งเงินทุนใด?
5. เมื่อจำเป็นต้องใช้เงินคุณจะได้เงินฉุกเฉินจากที่ไหน สายป่านยาวพอหรือไม่?
6. แผนระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาวในการทำกำไร พร้อมหรือยัง?
7. หากว่ากล้วยไม้หรือผลิตภัณฑ์ของคุณขายดีเกินคาด คุณจะมีวิธีเพิ่มผลผลิตของคุณอย่างไรให้เพียงพอต่อความต้องการ
8. คุณจะจัดการกับผลผลิตที่เกินความต้องการได้อย่างไร?
9. คุณจะหาแรงงานจากไหน? เพราะว่าคุณทำคนเดียวไม่ได้แน่นอน
10. มีแผนสำรองในทุกข้อที่กล่าวมาแล้วหรือยัง? เพราะผมเชื่อว่าคุณต้องได้ใช้แผนสำรองนี้อย่างแน่นอน!!
ถ้าหากว่าคุณสามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้แล้ว ผมว่าก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้วละที่จะทำให้ธุรกิจในฝันของคุณเดินหน้าไปได้อย่างมั่นคง อย่างน้อยก็ในระดับหนึ่งเพราะยังไงซะธุรกิจก็ต้องมีความเสี้ยงอยู่แล้วจริงไหมครับ งั้นเรามาเริ่มในเรื่องของต้นทุนในการทำสวนกล้วยไม้กันเลยครับ
1. ที่ดิน เชื่อว่าอันนี้คนที่คิดจะทำสวนกล้วยไม้คงต้องมีกันทุกคนนะครับ แต่ในที่นี้ผมหมายถึงต้นทุนในการปรับหน้าดิน หรือผิวดินให้เหมาะแก่การปลูก ซึ่งจะมีต้นทุนอยู่ราวๆไร่ละ 5,000-10,000 บาท
2. โรงเรือน ถ้าเป็นระดับเล็กก็อยู่ที่ 15,000-20,000 บาท แต่ถ้าเป็นระดับมาตรฐานที่ทำกันทั่วไปตกอยู่ที่ 40,000 บาทขึ้นไป
3. พันธุ์กล้วยไม้
อันนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด เราควรเลือกพันธุ์ทีเหมาะกับพื้นที่ของเรา สภาพอากาศ และเป็นที่นิยม ราคาก็อยู่ที่ ต้นละ 180-250 บาท
4. อุปกรณ์ในการปลูกกล้วยไม้
- ถ้วยนิ้ว ร้อยละ 60 ปลีกใบละ 1 บาท
- กระถางกลม3.5นิ้ว ร้อยละ 140 ปลีกใบละ 2 บาท
- กระถางเหลี่ยม4นิ้ว ร้อยละ 160 ปลีกใบละ 2 บาท
- กระถางเหลี่ยม6นิ้ว ร้อยละ 500 ปลีกใบละ 6 บาท
- ตะกร้าปุ๋ยกลาง ร้อยละ180 ปลีกใบละ 2.50 บาท
- ตะกร้าปุ๋ยเล็ก ร้อยละ 150 ปลีกใบละ 2 บาท
- ตะแกรง1นิ้ว แผ่นละ 30 บาท (ไม่รวมถ้วยนิ้ว )
- ตะแกรง4นิ้ว แผ่นละ 30 บาท ( ไม่รวมกระถางกลม3.5นิ้ว )
- ป้ายชื่อพลาสติกอย่างดี กันน้ำไม่บิดงอได้ 1ห่อ 100ชิ้น 50บาท
- มะพร้าวตุ้มใหญ่ ร้อยละ 200 ปลีก2ใบ5บาท สั่งขั้นต่ำ50ใบ
- ลวดแขวน3สาย มัดละ120เส้น 320 บาท/4สายมัดละ120เส้น 380 บาท
- ลวดนิ่มขดใหญ่1ขดมี30เส้นเส้นละ1.80เมตร 45 บาท
- ระบบน้า(ปั๊มน้ำ 3000 บาท )
5. ปุ๋ยอีกหนึ่งในต้นทุนที่สูงไม่น้อย
- วิตามินบี1 เร่งราก เริ่มการเจริญเติบโตในระยะแรก ขวดละ 25 บาท
- สารอาหารสูตรเข้มข้น เร่งราก เร่งดอก ใช้เมือต้นเริ่มแข็แรงแล้ว ขวดละ 40 บาท
- ปุ๋ยเกล็ดสูตรเสมอ 21-21-21บำรุงทุกส่วน ดูดซึมทั้งทางใบและราก ช่วงที่เริ่มให้ผลผลิต ขวดละ 40 บาท
- คาร์เบนดาซิมบาวิสติน ยากำจัดโรคพืชและเชื้อรา ขวดละ 120 บาท
- ปุ๋ยเม็ดละลายช้า14-14-14ออสโมโค้ทสูตรละลายช้าทุกๆ 3เดือน ก.กละ 120 บาท
- ปุ๋ยเม็ดผสมฮอร์โมนเร่งดอก เพิ่มสีสันเพิ่มขนาดและปริมาณดอก แผงละ 30เม็ด1เม็ดใช้ได้30วัน
6. ยากำจัดศัตรูพืช เนื่องจากกล้วยไม้ ไม่ได้เป็นพืชสำหรับกิน เพราะฉนั้น การใช้ยากำจัดศัตรูพืชจึงทำได้ และจะช่วยลดความเสี้ยงในธุรกิจของคุณลงได้เยอะทีเดียว
- ไรแบนสารกำจัดไรแดง - ขนาด 100ซีซี 100 บาท
- ออทุสเป็นสารกำจัดไรชนิดใหม่ - ขนาด 100ซีซี 150 บาท
- ฟอสแท็ค40เป็นสารกำจัดหนอน เพลี้ยแป้ง – ขนาด 100ซีซี 60 บาท
จากที่ลองไล่มาคร่าวๆก็ประมาณนี้ครับ อาจมีบวกลบนิดหน่อย และอีกอย่างที่ผมอยากจะแนะนำให้ทำก็คือ ในระยะแรกๆให้มีการทดลองกับกล้อยไม้ทดลองก่อนที่จะทำกับกล้วยไม้ทั้งหมดของคุณไม่ว่าจะเป็นปุ๋ย หรือยาฆ่าแมลง เพื่อลดความเสี่ยงที่จะทำให้พืชผลเสียหายได้ครับ