เกษตรกรของไทย เป็นกระดูกสันหลังของชาติ ทำการเกษตรมาอย่างช้านาน บางคนทำแล้วร่ำรวยมีเงินทอง บางคนทำแล้วเป็นหนี้เป็นสินก็มีเยอะแยะมากมาย ซึ่งต่างก็มีปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหา น้ำท่วม โรคระบาด ผลผลิตออกมาล้นตลาด การตีตลาดจากสินค้าชนิดเดียวกันจากต่างประเทศ เหล่านี้ล่ะครับที่ทำให้ไม่เกิดความยังยืน การทำเกษตรทฤษฎีใหม่จึงเกิดขึ้นมา โดยใช้หลักการเน้นการจัดการพื้นที่ แหล่งน้ำ ให้เหมาะสมและมีความเกี่ยวเนื่องกัน การทำการเกษตรแบบนี้เน้นเป็นไปในลักษณะของความพอเพียงเราขอยกตัวอย่างให้ดูนะครับ “สมมติว่าท่านมีพื้นที่สำหรับทำการเกษตรหนึ่งไร่ หากท่านจัดการดีๆ ขุดสระน้ำเป็นบ่อเลี้ยงปลาและเก็บน้ำไว้ใช้สำหรับหน้าแล้ง ด้านบนเลี้ยงไก่ เลี้ยงเป็ด ตามสันบ่อปลูกผักชนิดต่างๆซึ่งมีรายละเอียดคร่าวๆดังนี้”
เกษตรทฤษฎีใหม่
โดยสูตรคร่าวๆ แต่ละแปลงประกอบด้วย
- มีพื้นที่สำหรับการนาประมาณ 5 ไร่
- มีพื้นที่สำหรับพืชไร่ และ ไม่ว่าจะเป็นไม้ผล หรือไม่เนื้อแข็งสำหรับใช้สอยโดยจะเป็นไม้ที่โตเร็วก็ได้ประมาณ 5 ไร่
- พื้นที่สำหรับสระน้ำ 3 ไร่ ลึก 4 เมตร ความจุประมาณ 19,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเราก็สามารถที่จะเลี้ยงปลาในสระนี้และก็สามารถใช้น้ำในการทำการเกษตรได้อีกด้วยเช่นรดน้ำต้นไม้ในบริเวณใกล้เคียง
- ที่อยู่อาศัยและอื่นๆ ประมาณ2 ไร่ พื้นที่นี่จะเห็นได้ว่าเยอะเหมือนกันนะครับ อาจจะสร้างโรงเรือนเพาะเห็ด ปลูกผัก เลี้ยงวัว เป็นต้น
เกษตรทฤษฎีใหม่
รวมพื้นที่แล้วประมาณ 15 ไร่ แต่เชื่อว่าหลายๆท่านจะมีพื้นที่มากน้อยกว่านี้แตกต่างกนดังนั้นต้องนำมาแบ่งเป็นสัดส่วนที่พอเหมาะ ไม่จำเป็นต้องตรงแป๊ะนะครับนี่เป็นแค่การประมาณท่านอาจจะถนัดเลี้ยงสัตว์ก็เพิ่มพื้นที่สำหรับเลี้ยงได้ หรือท่านถนัดทำนาก็เพิ่มพื้นที่ทำนาได้แต่อย่าให้สัดส่วนแตกต่างกันมากเกินไป เชื่อได้เลยครับว่าหากเกษตรกรท่านใดนำทฤษฎีนี้ไปใช้แล้วย่อมได้ผลดีแน่นอน เมื่อมีความพอเพียง เรามีผลผลิตกินเอง ไม่ต้องซื้อนี่คือหัวใจสำคัญเพราะหากเกษตรกรยังซื้อของที่ตนเองปลูกก็ถือได้ว่าไม่ประสบความสำเร็จ นี่คือเรื่องจริงนะครับ เกษตรกรไทยที่ทำนายังต้องซื้อข้าวกินเป็นเรื่องที่น่าคิดมากๆ เรามาร่วมกันใช้ความพอเพียงเป็นที่ตั้งหลักเมื่อเราพอเราเหลือผลผลิตทางการเกษตรของเราก็จะสามารถนำไปแจกจ่ายหรือขายได้กำไรโดยที่เราไม่ต้องลงทุนอะไรเลยนั่นเอง เราไม่ต้องกู้เงินใครมาทำ เราไม้องกลัวโรคระบาดที่เกิดกับพืชเพราะธรรมชาติจะมีวิธีการจัดการของมันเอง ท่านลองสังเกตซิพวกเพลี้ยไม่เคยระบาดในนาข้าวที่ปลูกตามธรรมชาติต่างกับพื้นที่ที่ใช้สารเคมีที่ระบาดเกือบทุกๆปีนั่นเพราะตัวทำลายพวกเพลี้ยก็ไม่สามารถเข้ามากำจัดได้เพราะสารเคมีที่เราใช้นั่นเอง ฝากทิ้งท้ายเกษตรกรไทย ใช้ความพอเพียง มีความสุขกับการทำการเกษตร เพื่อคนอีกหลายล้านคนทั่วโลกได้อิ่มท้อง……….
Comments
comments
การทำเกษตรทฤษฎีใหม่
เกษตรกรของไทย เป็นกระดูกสันหลังของชาติ ทำการเกษตรมาอย่างช้านาน บางคนทำแล้วร่ำรวยมีเงินทอง บางคนทำแล้วเป็นหนี้เป็นสินก็มีเยอะแยะมากมาย ซึ่งต่างก็มีปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหา น้ำท่วม โรคระบาด ผลผลิตออกมาล้นตลาด การตีตลาดจากสินค้าชนิดเดียวกันจากต่างประเทศ เหล่านี้ล่ะครับที่ทำให้ไม่เกิดความยังยืน การทำเกษตรทฤษฎีใหม่จึงเกิดขึ้นมา โดยใช้หลักการเน้นการจัดการพื้นที่ แหล่งน้ำ ให้เหมาะสมและมีความเกี่ยวเนื่องกัน การทำการเกษตรแบบนี้เน้นเป็นไปในลักษณะของความพอเพียงเราขอยกตัวอย่างให้ดูนะครับ "สมมติว่าท่านมีพื้นที่สำหรับทำการเกษตรหนึ่งไร่ หากท่านจัดการดีๆ ขุดสระน้ำเป็นบ่อเลี้ยงปลาและเก็บน้ำไว้ใช้สำหรับหน้าแล้ง ด้านบนเลี้ยงไก่ เลี้ยงเป็ด ตามสันบ่อปลูกผักชนิดต่างๆซึ่งมีรายละเอียดคร่าวๆดังนี้" โดยสูตรคร่าวๆ แต่ละแปลงประกอบด้วย - มีพื้นที่สำหรับการนาประมาณ 5 ไร่ - มีพื้นที่สำหรับพืชไร่ และ ไม่ว่าจะเป็นไม้ผล หรือไม่เนื้อแข็งสำหรับใช้สอยโดยจะเป็นไม้ที่โตเร็วก็ได้ประมาณ 5 ไร่ - พื้นที่สำหรับสระน้ำ 3 ไร่ ลึก 4 เมตร ความจุประมาณ 19,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเราก็สามารถที่จะเลี้ยงปลาในสระนี้และก็สามารถใช้น้ำในการทำการเกษตรได้อีกด้วยเช่นรดน้ำต้นไม้ในบริเวณใกล้เคียง - ที่อยู่อาศัยและอื่นๆ ประมาณ2 ไร่ พื้นที่นี่จะเห็นได้ว่าเยอะเหมือนกันนะครับ อาจจะสร้างโรงเรือนเพาะเห็ด ปลูกผัก เลี้ยงวัว เป็นต้น รวมพื้นที่แล้วประมาณ 15 ไร่ แต่เชื่อว่าหลายๆท่านจะมีพื้นที่มากน้อยกว่านี้แตกต่างกนดังนั้นต้องนำมาแบ่งเป็นสัดส่วนที่พอเหมาะ ไม่จำเป็นต้องตรงแป๊ะนะครับนี่เป็นแค่การประมาณท่านอาจจะถนัดเลี้ยงสัตว์ก็เพิ่มพื้นที่สำหรับเลี้ยงได้ หรือท่านถนัดทำนาก็เพิ่มพื้นที่ทำนาได้แต่อย่าให้สัดส่วนแตกต่างกันมากเกินไป เชื่อได้เลยครับว่าหากเกษตรกรท่านใดนำทฤษฎีนี้ไปใช้แล้วย่อมได้ผลดีแน่นอน เมื่อมีความพอเพียง เรามีผลผลิตกินเอง ไม่ต้องซื้อนี่คือหัวใจสำคัญเพราะหากเกษตรกรยังซื้อของที่ตนเองปลูกก็ถือได้ว่าไม่ประสบความสำเร็จ นี่คือเรื่องจริงนะครับ เกษตรกรไทยที่ทำนายังต้องซื้อข้าวกินเป็นเรื่องที่น่าคิดมากๆ เรามาร่วมกันใช้ความพอเพียงเป็นที่ตั้งหลักเมื่อเราพอเราเหลือผลผลิตทางการเกษตรของเราก็จะสามารถนำไปแจกจ่ายหรือขายได้กำไรโดยที่เราไม่ต้องลงทุนอะไรเลยนั่นเอง เราไม่ต้องกู้เงินใครมาทำ เราไม้องกลัวโรคระบาดที่เกิดกับพืชเพราะธรรมชาติจะมีวิธีการจัดการของมันเอง ท่านลองสังเกตซิพวกเพลี้ยไม่เคยระบาดในนาข้าวที่ปลูกตามธรรมชาติต่างกับพื้นที่ที่ใช้สารเคมีที่ระบาดเกือบทุกๆปีนั่นเพราะตัวทำลายพวกเพลี้ยก็ไม่สามารถเข้ามากำจัดได้เพราะสารเคมีที่เราใช้นั่นเอง ฝากทิ้งท้ายเกษตรกรไทย ใช้ความพอเพียง มีความสุขกับการทำการเกษตร เพื่อคนอีกหลายล้านคนทั่วโลกได้อิ่มท้อง……….
User Rating: 4.95 ( 1 votes)
0