การเกษตร ข่าวเกษตร แหล่งรวมความรู้ด้านการเกษตรในประเทศไทย
วันนี้ผู้เขียนขอแนะนำอีกหนึ่งอาชีพทำเงินที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร นั่นก็คือการท่องเที่ยว หลายคนสงสัยว่ามันจะเกี่ยวข้องกับการเกษตรได้อย่างไร เกี่ยวสิครับเพราะเรื่องที่ผมจะนำมาเล่าสู่ชาวเกษตรฟังกันวันนี้ก็คือ เรื่องของการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ซึ่งในบ้านเราอาจจะไม่ได้บูมอะไรมากมายนัก แต่ในต่างประเทศ(ที่เจริญแล้ว) การท่องเที่ยวแบบนี้เป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวมากๆครับ และในบ้านเราทุกวันนี้เด็กที่อายุไม่เกิน 10 เริ่มจะไม่รู้จักสิงเหล่านี้แล้ว หรือแม้แต่ผู้ใหญ่บางคนก็ยังไม่เคยได้สัมผัสเลยก็ว่าได้ แล้วจะแปลกตรงไหนหากเรื่องเหล่านี้ที่ชาวเกษตรกรทำกันทุกวันกลายเป็นเรื่องแปลกที่เหล่าคนเมืองจริงไหมครบ
การท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เป็นที่นิยมทัั้งในบ้านเราและต่างประเทศมีอะไรบ้างไปดูกันครับ
1. การทำนา (Rice Cultivation) ไม่ว่าจะเป็นนาปี นาปรัง นาขั้นบันได การไถ การดำ การหว่าน การเกี่ยวข้าว โดยการพานักท่องเที่ยวไปทำจริงๆ เหมือนกับเป็นชาวนาคนหนึ่งทั้งอาหารการกิน ที่พัก รีสอสท์ ที่นอน ซึ่งแต่ละขั้นตอนสามารถทำได้ปีละครั้ง เป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ และกำลังมาแรงในบ้านเราด้วยครับ
2. การทำสวนไม้ตัดดอก (Cutting Flowers) การทำสวนดอกไม้ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงการเกษตร ที่ได้รับความนิยมมากๆ ทั้งในบ้านเราและในต่างประเทศ เช่น ทุ่งทานตะวัน ทุ่งดอกกระเจียว สวนกล้วยไม้ ล้วนแล้วแต่เป็นแหล่งให้ความสุขเพลิดเพลินกันธรรมชาติ เป็นที่ถ่ายรูป วาดรูป หรือแม้แต่แหล่งความรู้ต่างให้ศึกษา
3. การทำสวนผลไม้ (Horiculture) อันนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงครับ เป็นที่นิยมมากๆ โดยเฉพาะในบ้านเรา โดยการท่องเที่ยวจะมีทั้งแบบ เข้าชมสวนผลไม้อย่างเดียว หรือการเข้าไปทานผลไมได้อย่างเต็มที่ ซึ่งสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไม่น้อย เผลอๆ อาจสร้างรายได้มากกว่าการขายผลไม้เสียอีกครับ สวนผลไม้ที่นิยมทำการท่องเที่ยวเชิงเกษตรก็ได้แก่ สวนเงาะ สวนส้ม สวนลำใย สวนองุ่น สวนทุเรียนเป็นต้นครับ
4. การทำสวนครัวสวนผัก (Vegetables) อีกหนึ่งการท่องเที่ยวที่ชายไทยไม่ค่อยคุ้นหูกันมากนักครับ แต่เชื่อเถอะครับว่าหลายคนเคยไปเที่ยวสถานที่เที่ยวเชิงเกษตรแบบนี้แน่นอน ยกตัวอย่างเช่น สวนกะหล่ำปลีที่ภูทับเบิก เป็นต้นครับ
5. การทำสวนสมุนไพร (Herbs) โดยมากแล้วจะรวมอยู่ในหมวดการทำสวนครับ เพราะสมุนไพรส่วนมากในบ้านเราก็คือผักสวนครัวที่รับประทานกันทั่วไปครับ
6. การทำฟาร์มปศุสัตว์ (Animal Farming) อีกหนึ่งการท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ชายไทยคุ้นเคยก็คือการทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ เช่นฟาร์มโชคชับ ฟาร์มจรเข้ หรืออื่นๆก็สามารถทำการท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้ทั้งนั้น สร้างรายเสริมได้เป็นกอบเป็นกำครับ
7. งานเทศกาลผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ( Festival) การจัดเทศกาลต่างๆที่เกี่ยวกับผักผลไม้ก็เป็นอีกหนึ่งการท่องเที่ยวเชิงการเกษตร เช่นบางประเทศจัดงานเทศกาลปาส้ม เทศกาลปามะเขือเทศเป็นต้น ซึ่งดึงดูดให้ชาวต่างชาติเข้าร่วเทศกาลได้อย่างน่าอัศจรรย์ “บ้านเราก็น่าจะมีงานปาผลไม้แบบต่างประเทศเขาบ้าง คงสร้างสีสันให้กับการท่องเที่ยวได้ไม่น้อยครับ ผมขอแนะนำเลยว่าจัดเทศกาลปาทุเรียน รับรองดังทั่วโลกแน่นอนครับ” (ผมคนหนึ่งละที่ไม่ไปร่วมงานนี้ หุหุหุ)
ประโยชน์การท่องเที่ยวเชิงเกษตร
นอกจากการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้กับเกษตรกรแล้ว การท่องเที่ยวเชิงเกษตรยังมีประโยชน์อีกหลายด้านเช่น
1. รู้จักการอนุรักษ์และจัดการทรัพยากรการท่องเที่ยวอย่างพอดี เพื่อให้เกิดผงกำไรที่คุ้มค่าทางธุรกิจ
2. ลดการใช้ทรัพยากรเกินความจำเป็น และลดของเสียที่เกิดจากการบริโภค
3. ช่วยกันรักษาและส่งเสริมความหลากหลายของธรรมชาติ สังคม และวัฒนธรรม
4. มีการประสานการพัฒนาการท่องเที่ยวให้เข้ากับกิจกรรมและแผนกลยุทธการพัฒนาของชาติและท้องถิ่น
5. พยายามส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยพิจารณาใช้วัตถุดิบที่มาจากท้องถิ่น
6. เปิดโอกาสให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการพัฒนาการท่องเที่ยว
7. หมั่นปรึกษาหารือระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขหรือปรับปรุงข้อผิดพราดอยู่เสมอ
8. ฝึกอบรมบุคลากร เพื่อให้เกิดความรู้และยกระดับมาตรฐานการบริการการท่องเที่ยว
9. เตรียมข้อมูลข่าวสารด้นการตลาด เพี่อสร้างความเข้าใจ และเคารพในสิ่งแวดล้อม
10. วิจัยและติดตามตรวจสอบ อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มพูนความรู้และประโยชน์ต่อแหล่งท่องเที่ยว
อันนี้ดึงมาจาก http://cartoon-51011011901.blogspot.com/ บ็อคของน้องๆนักศึกษาภากการท่องเที่ยว ซึ่งให้ความรู้ได้ดีมากๆครับ ถ้าผมเป็นอาจารย์ผู้สอนละก็ เกรด 4 แน่นอน 555
