สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆชาวเกษตรทุกท่าน เห็นมีหลายคน สงสัยและมีความสนใจในการเลี้ยงไก่ แบบคอนเทคฟาร์มมิ่ง(ไก่ซีพี ) วันนี้ผมก็เลยหาข้อมูลมาฝากกันขาดตกบกพร่องตรงไหนก็บอกกันได้เลยนะครับ
สำหรับการเลี้ยงไก่แบบคอนเทคฟาร์มมิ่ง(ไก่ ซีพี) เป็นการเลี้ยงไก่ที่มีลักษณะเหมือนการซื้อแฟรนไชส์มาเลี้ยง ทางบริษัทจะมีการอบรมให้ความรู้ รวมทั้งดูแลอย่างใกล้ชิด จัดหาอุปกรณ์ โรงเรือนในการเลี้ยงไก่ การซ่อมบำรุง ซึ่งเป็นโรงเรือนแบบปิด และแน่นอนว่าเกษตรกรเป็นคนจ่ายเหมือนกับแฟรนไชส์ทั่วไปครับ
พันธุ์ไก่ที่เลี้ยงก็จะเป็นพันธ์ไก่ที่บางบริษัทซีพีเอฟเป็นคนจัดหาให้ เป็นพันธ์ที่ทางบริษัทพัฒนามาจากไก่สายพันดี 3 สายพันธุ์(เขาว่างั้นนะ) ลักษณะเด่นคือ แข้งดำ เนื้อหน้าอกเต็ม ขาไม่ยาวและไม่ดุ ซึ่งต่างจากไก่ที่เลี้ยงกันทั่วไป ที่มีสายพันธ์มาจากไก่ชน เนื้อเหนียว(ผมว่าเนื้อเหนียวๆอร่อยดีนะ อิอิ)
การเลี้ยงจะใช้เวลาประมาณ 8 สัปดาห์ ก็สามารถที่จะจับขายได้แล้ว การขายเป็นการขายแบบประกันราคา มีรายได้แน่นอน ในหนึ่งปีสามารถเลี้ยได้ 2-3 รุ่น ทำรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 12,000-15,000 บาท ต่อโรงเรือนขนาด 8,000 ตัวครับ
อ่านกันมาคร่าวๆแล้วรู้สึกว่าไม่ได้ยากอะไร มีเครื่องมือให้อย่างพร้อมเพียงทุกอย่างไม่มีขาดตกบกพร่องอะไรครับ และนั่นหมายถึงการลงทุนระดับ 6 หลักเลยนะครับ ซึ่งถ้าเป็นเกษตรกรทั่วไป ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่สูงมาก แต่ไม่ต้องตกใจไปนะครับ ทางบริษัทจะทำการกู้เงินกับทางธนาคารกรุงเทพให้อย่างไว รับรองว่าไม่ยุ่งยากครับ หุหุหุ
สรุปแล้ว การทำฟาร์มไก่แบบคอนเทคฟาร์มมิ่ง(ไก่ ซีพี ) ก็ถือว่าเป็นการเริ่มอาชีพที่ง่าย สะดวกเพราะมีทีมงานมืออาชีพคอยให้คำปรึกษา และคิดแทนพอสมควร แต่เอ๊!!!!! มันมีข้อเสียบ้างไหมน๊าเห็นผู้เขียนกล่าวถึงแต่ข้อดี ….
ข้อเสียก็มีอยู่บ้างครับ จากที่ได้ศึกษามาคือ
1. การลงทุนสูงมาก ผลตอบแทนยังไม่มากมายอะไรนักเมื่อเที่ยบกับการทำฟาร์มแบบอื่นๆ
2. อุปกรณ์โรงเรือนมีราคาค่อนข้างที่จะสูงกว่าท้องตลาดทั่วไป ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าเป็นอุปกรณ์ที่ผ่านการศึกษาวิเคราะห์จากผู้เชียวชาญมาแล้ว เลยต้องบวกราคาค่าค้นคว้าก็เป็นได้ครับ
3. มีกฎเกณฑ์ที่ยุ่งยากพอสมควรซึ่งเกษตรกรต้องปฎิบัติอย่างเคร่งครัดครับ
4. มีการแจ้งซ่องโรงเรื่อนค่อนข้างบ่อย และ การซ่อมปรับปรุงจะถูกสั่งโดยเจ้าหน้าที่ของทางบริษัทเอง ซึ่งอุปกรณ์ทุกอย่างก็ต้องสั่งจากทางบริษัทเองด้วย อะนะ
5. บางช่วงที่เนื้อไก่ราคาตก ทางบริษัทอาจจะไม่ส่งไก่ให้กับทางฟาร์ม เพราะจะทำให้ได้ราคาต่ำ ทำให้บริษัทต้องซื้อไก่ในราคาประกันซึ่งหมายความว่า เกษตรกรจะไม่มีรายได้ในช่วงนี้ด้วยครับ
เอาเท่านี้ก่อนนะครับเดี๋ยวจะโดนสั่งปิดเว็บไปเสียก่อน หุหุหุ แต่เชื่อเถอะครับว่าการลงทุนทุอย่างมีความเสี้ยง เสี้ยงมากเสี้ยงน้อยอยู่ที่เรามีความรู้ในเรื่องนั้นมากแค่ไหนครับสุดท้ายแล้วไม่ว่าจะอาชีพไหนถ้าอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง ความสุจริตก็ทำไปเถอะครับ