ปัญหาสำคัญที่ก่อให้เกิดความยากจนของชาวนา นั่นคือการไม่รู้จักปรับปรุงดิน ไม่เอาภูมิปัญญาพื้นบ้านมาช่วยลดต้นทุน เพื่อให้ได้ผลผลิตสูง นายทวี ชาวสวน ชาวนามืออาชีพตำบลเวียงเหนือ อ.เวียงชัย จ.เชียงราย บอกว่า หลังเกี่ยวข้าวชาวนาส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครส่งดินไปตรวจวิเคราะห์คุณภาพดิน นาเป็นอย่างไร แย่แค่ไหน ถึงฤดูทำนาก็หว่านกล้า ปลูกข้าวต้นไม่งามก็ซัดปุ๋ย ทำให้ลำต้นอ่อนแอเกิดโรคระบาดง่าย ต้นทุนทำนาสูง กลายเป็นปัญหาเส้นผมบังภูเขา
“วิธีสังเกตดินเสื่อมโทรม ปลูกข้าวให้สังเกตต้นข้าว หากดินดีอายุข้าว 7 วัน จะมี 3 ใบ อายุ 60 วัน เริ่มตั้งท้อง อายุ 3 เดือน เริ่มมีเมล็ดข้าวเต็มรวง อวบแน่น น้ำหนักดี แต่ถ้าดินแย่ข้าวยังไม่ทันตั้งท้องใบจะมีสีเหลือง ลำต้นแคระแกร็นเมล็ดสูงไม่สม่ำเสมอ เมล็ดลีบออกรวงน้อย ไม่ได้ผลผลิตตามเป้าที่วางไว้”
ฉะนั้นถ้าจะทำให้ดินดี ชาวนามืออาชีพ ต.เวียงเหนือ แนะก่อนปลูกต้องเตรียมดิน หลังไถกลบตอซัง ใส่จุลินทรีย์หน่อกล้วย สาดในนาข้าวที่มีน้ำขังลดความเป็นกรด-ด่าง ช่วยให้ดินร่วนซุย ปลูกข้าวอายุ 15 วัน ต้องทำสารสกัดเปลือกมังคุด-สะเดา เตรียมไว้ใช้ขับไล่แมลงอย่างเพลี้ยกระโดดหลังขาว หนอนมวนใบที่จะระบาดขณะข้าวออกใบอ่อนไปจนถึงตั้งท้อง เพราะเป็นช่วงที่แปลงนามีกลิ่นหอมเรียกแมลงให้มากัดกิน ถ้าทำได้อย่างนี้ นอก จากช่วยลดค่าปุ๋ย ดินยังอุดมสมบูรณ์ ต้นข้าวแข็งแรง ดีกว่าสักแต่ซัดปุ๋ยใส่ แล้วยังช่วยลดรายจ่ายซื้อสารเคมียาค่าแมลง ต้นตอที่ทำให้ชาวนาได้กำไรน้อย ยิ่งทำยิ่งจน แต่เมื่อต้นทุนทำนาแต่ละครั้งไม่ต้องใช้เงินมาก สามารถขายข้าวได้เองมีกำไร โดยไม่ต้องง้อโครงการรับจำนำเสี่ยงไม่ได้เงิน
สำหรับสูตรสารสกัดเปลือกมังคุด-สะเดาที่ใช้ขับไล่แมลง จะใช้เปลือกมังคุดดิบทุบให้แตก ผึ่งแดดให้หมาดๆ เอามาตำให้ละเอียด 1 กก. หมักกับแอลกอฮอล์ 70% จำนวน 450 ซีซี หมักทิ้งไว้ 7 วัน กรองเอาแต่น้ำ สูตรนี้จะได้น้ำหมัก 300 ซีซี เก็บไว้ ใช้เม็ดสะเดาแก่ 1 กก. หมักกับน้ำ 200 ลิตร ยาฉุน (ยาเส้น) 1 ขีด น้ำยาล้างจาน 100 ซีซี หมักไว้ 1 คืน คั้นเอาแต่น้ำ ผสมกับสารสกัดเปลือกมังคุด 50 ซีซี ฉีดพ่นช่วงเช้า ซึ่งจะทำให้สารสกัดจับใบข้าวได้ดี.
|