ตลาดเกษตร

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ค้นหา
ดู: 9106|ตอบกลับ: 3
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

วิธีการปลูกผักหวานป่า การปฏิบัติดูแล และ เพาะเมล็ดผักหวานป่าในพื้นที่ราบ

[คัดลอกลิงก์]

1

กระทู้

5

โพสต์

44

เครดิต

Beginner

Rank: 1

เครดิต
44
ผักหวาน โดยส่วนมากเรารู้จัดกันแต่ผักหวาน แต่บางคนอาจยังไม่ทราบว่ามีผักหวานกี่ชนิด
ซึ่งที่อร่อยและมีราคาแพงก็จะเป็น ผักหวานป่า ป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ต้นที่โตเต็มที่อาจสูงถึง 13 เมตร
ส่วนที่พบโดยทั่วไปที่นำมาปลูกจะอยู่ที่ขนาดเล็ก หรือเป็นไม้พุ่ม เนื่องจากมีการหักกิ่งเด็ดยอดเพื่อกระตุ้นให้เกิดกิ่งและยอดอ่อนซึ่งเป็นส่วนที่ใช้บริโภค


ยอดและใบอ่อนนิยมนำมาปรุงอาหารทั้งต้ม ผัด แกง เมื่อก่อนปลูกค่อนข้างยาก

เพราะเป็นพืชแบบอิงอาศัย อยู่ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ จึงเก็บยอดมาจากป่าธรรมชาติเป็นหลักและมักจะแตกยอดดีหลังจากถูกไฟป่าเผาพื้นที่ป่า จึงมีการลักลอบเผาป่าเพื่อรอเก็บยอดผักหวานป่ากันบ่อยครั้งจนทำให้พื้นที่ป่าเสียหายวงกว้างในหลายพื้นที่



ต่อมาจึงมีการเพาะขยายพันธุ์แล้วนำมาปลูกในพื้นที่ของเกษตรกรแต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร ขณะที่ตลาดยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง และมักจะมีการลักลอบขุดต้นตอจากป่ามาปลูก แต่มาในวันนี้สิ่งนี้กำลังได้รับการแก้ไขและดูจะประสบความสำเร็จเพราะมีหลายพื้นที่สามารถเพาะเมล็ดและปลูกในพื้นที่ราบได้ ดังที่ตำบลหนองโรง อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี พื้นที่การเกษตรของนายฉาย เปรมปรีดิ์ ที่นำผักหวานป่ามาปลูกในพื้นที่แบบไร่นา

และประสบความสำเร็จเจริญเติบโตดีแตกกิ่งออกยอดมีทรงพุ่มสมบูรณ์





โดยส่วนมากเรารู้จักกันแต่ผักหวาน แต่บางคนอาจยังไม่ทราบว่ามีผักหวานกี่ชนิด รู้แค่ว่า รับประทานได้ อร่อยด้วย ซึ่งที่อร่อยและมีราคาแพงก็จะเป็น ผักหวานป่า พืชชนิดนี้จัดเป็นผักพื้นบ้านที่มีอายุยืนได้นับร้อยปี หลายปีที่ผ่านมามีจำนวนผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้แต่ชาวต่างชาติก็เริ่มให้ความสนใจ ดูได้จากตัวเลขของการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง และไต้หวัน


               
จากที่ไม่เคยมีตัวเลขส่งออกเลยในอดีตด้วยผักหวานป่าจัดเป็นผักที่มีความปลอดภัยจากสารพิษ ปลูกในระบบเกษตรอินทรีย์ ได้นำไปประกอบอาหารให้รสชาติที่หวาน มัน กรอบ และอร่อย นอกจากนั้น ในทางโภชนาการพบว่า ผักหวานป่าอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารที่เป็นประโยชน์ อาทิ สารเบต้า-แคโรทีน วิตามิน ซี และวิตามิน บี 2 ซึ่งนี่เองที่ทำให้ คุณลุงสังวาล เจริญสุข ปราชญ์ชาวบ้านผักหวานป่า ซึ่งเป็นเกษตรกรที่คลุกคลีกับต้นผักหวานป่ามาตั้งแต่เด็ก กินผักหวานป่ามาตั้งแต่จำความได้ และพบต้นผักหวานป่าขึ้นโดยธรรมชาติตามป่าในเขตพื้นที่ ตำบลสร่างโศก ปัจจุบันยังพบต้นผักหวานป่าที่มีอายุมากว่า 100 ปี ยังมีชีวิตอยู่และให้ผลผลิตที่ชาวบ้านสามารถเก็บเกี่ยวมาขายได้เป็นประจำทุกปีชาวบ้านในละแวกนี้ได้มีความพยายามที่จะขยายพันธุ์ผักหวานป่าที่อยู่ในป่ามาปลูกในบริเวณบ้าน นำมาปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจ ทั้งที่ขุดต้นเล็ก ต้นใหญ่ นำมาปลูกหรือการนำเมล็ดมาเพาะงอก

               
ปรากฏว่าต้นที่ขุดมาปลูกนั้นจะตายทั้งหมดในเวลาต่อมา ในส่วนของเมล็ดที่มาเพาะมีอัตราการรอดตายบ้าง แต่กว่าที่จะค้นหาวิธีเพาะเมล็ด และนำมาปลูกให้รอดตายมากที่สุดได้ใช้วิธีค้นคิดและศึกษายาวนานพอสมควร ดังนั้น ปัญหาหลักของการขยายพื้นที่ปลูกผักหวานป่าในบ้านเราก็คือเรื่องของการขยายพันธุ์และการปลูกนั่นเอง หลายคนจึงมักจะบอกว่า ผักหวานป่า เป็นพืชที่ปลูกยาก แต่เมื่อปลูกเป็นต้นและไม่ตายแล้ว จัดเป็นพืชที่มีอายุยืนยาวมาก บางคนเรียกว่าพืชอมตะก็มีด้วย



ภาพและที่มาโดย : acfs.go.th ( สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ )

1

กระทู้

5

โพสต์

44

เครดิต

Beginner

Rank: 1

เครดิต
44
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Nantana เมื่อ 2014-7-28 04:24

การปฏิบัติดูแลต้นผักหวานป่า

                เมื่อเริ่มปลูกผักหวานป่า คุณลุงสังวาล ได้บอกว่า ต้นผักหวานป่านั้นจัดเป็นพืชยืนต้นที่มีการดูแลน้อยมาก จะมีการให้น้ำบ้างเมื่อพบสภาพความแห้งแล้งจริง จะมีการให้น้ำบ่อยครั้งขึ้นเฉพาะช่วงที่เก็บยอดขาย ปุ๋ยจะใส่เฉพาะปุ๋ยคอกโดยใส่ให้ปีละ 2 ครั้ง ใส่ครั้งแรกก่อนที่ต้นจะแตกยอดอ่อนและออกดอก และใส่อีกครั้งเมื่อเก็บยอดหมดแล้วในช่วงต้นฤดูฝนปุ๋ยคอกที่ใช้ควรมีการหมัก ดีแล้วใส่บริเวณรอบทรงพุ่ม ห่างจากโคนต้นประมาณ 1 ศอก

                สำหรับ ปุ๋ยเคมีจะไม่ใส่เลย เนื่องจากประสบการณ์ที่ผ่านมานั้น มีเกษตรกรบางรายได้ใส่ปุ๋ยยูเรียเพื่อต้องการจะเร่งยอด ปรากฏว่าใบร่วงและต้นตายในเวลาต่อมาการกำจัดวัชพืชจะทำในช่วงที่ฝนตกชุกและ เมื่อดูว่ารกจริงๆ เท่านั้น คุณลุงสังวาลไม่แนะนำให้ใช้จอบถากหญ้า เพราะอาจจะไปกระทบกับรากของต้นผักหวานป่าได้ ในขณะเดียวกันหลังจากที่ปลูกต้นผักหวานป่าไปแล้วจะต้องไม่พรวนดินอย่างเด็ด ขาด คุณลุงสังวาลได้เน้นว่าถ้าไม่จำเป็นอย่าไปยุ่งในส่วนของรากผักหวานป่า ซึ่งเมื่อต้นผักหวานป่าโตเต็มที่รากจะแผ่กระจายไปทั่ว ในส่วนของโรคและแมลงจากประสบการณ์การปลูกผักหวานป่าของคุณลุงสังวาลพบว่ามี น้อยมาก และไม่ได้เป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการปลูกผักหวานป่า หรือพูดง่ายๆ เลยคือว่า ปลูกผักหวานป่าแทบจะไม่ใช้สารฆ่าแมลงและสารกำจัดเชื้อราเลย ปลูกผักหวานป่าแบบอินทรีย์ พืชชนิดนี้จัดเป็นการปลูกแบบเกษตรอินทรีย์อย่างแท้จริงที่ให้ผลผลิตและงอก งามดียิ่ง

1

กระทู้

5

โพสต์

44

เครดิต

Beginner

Rank: 1

เครดิต
44
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Nantana เมื่อ 2014-7-28 04:23

ผักหวานป่านอกฤดู


                ปัจจุบัน คุณลุงสังวาลมีพื้นที่ปลูกผักหวานป่า ประมาณ 7 ไร่ แทบทั้งหมดปลูกอยู่ในสวนผลไม้เก่า ซึ่งแต่เดิมเคยปลูกชะอมและน้อยหน่า แต่ทำรายได้สู้การปลูกผักหวานป่าไม่ได้ จึงเปลี่ยนมาปลูกผักหวานป่าทั้งหมด ทยอยปลูกทุกปี ปัจจุบันปลูกไปแล้วกว่า 1,000 ต้น ต้นที่มีอายุมากที่สุด มีอายุได้ 20 ปี หลายคนยังคงไม่ทราบว่าราคาผักหวานป่าในช่วงปีใหม่เดือนมกราคมจะมีราคาแพงมาก เพราะเป็นผักหวานป่าที่ออกนอกฤดูที่สวนผักหวานป่าของคุณลุงสังวาลจะแบ่ง จำนวนต้นเพื่อผลิตนอกฤดู เราสามารถกำหนดการแตกยอดของผักหวานป่าได้ วิธีการคือ การตัดแต่งกิ่งผักหวานป่าทั้งต้นเพื่อเป็นการกระตุ้น โดยจะรูดใบแก่บนต้นออกเกือบทั้งหมดในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ให้เหลือใบติดกิ่งอยู่บ้างแต่น้อยมาก หลังจากนั้นให้หักกิ่งแขนงออกครึ่งหนึ่งของความยาวกิ่ง

                ถ้า หักกิ่งยาวเกินไป ยอดอ่อนที่แตกออกมาจะไม่สวย ผอม รวมถึงออกยอดน้อย หลังจากที่ตัดแต่งกิ่งเสร็จจะต้องให้น้ำอย่างน้อย 3-5 วัน ต่อครั้ง (ช่วงนั้นเป็นช่วงฤดูหนาว ฝนไม่ตก) ก่อนหน้าที่จะตัดแต่งกิ่งประมาณ 1 เดือน ควรใส่ปุ๋ยคอก เมื่อถึงช่วงปีใหม่เดือนมกราคม ผักหวานป่าจะแตกยอดอ่อนออกมาให้เก็บขายได้โดยจะมียอดอ่อนให้เก็บทุกๆ 7 วันบางปีผักหวานป่าที่เก็บขายในช่วงปีใหม่มีราคาสูงกว่ากิโลกรัมละ 100 บาท บางปีขายได้ถึงกิโลกรัมละ 200 บาท ก็มีได้ราคาดีมาก

                ต้นผักหวานป่านอกฤดูที่เก็บเกี่ยวหมดแล้ว เราควรจะพักต้นเลยและบำรุงปุ๋ยคอกและให้น้ำเพื่อไปผลิตนอกฤดูในฤดูกาลปีหน้า ต่อไป สำหรับต้นผักหวานป่าที่เหลือปล่อยให้ออกในฤดูช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ซึ่งจะขายได้ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 40 บาท ถึงแม้จะขายได้ราคาที่ต่ำกว่า แต่ได้ผลผลิตมากที่สำคัญคุณลุงสังวาลสามารถผลิตผักหวานป่าขายได้ปีละ 3 เดือน คือ เดือนมกราคม-มีนาคม และทำรายได้ดีกว่าการปลูกพืชชนิดอื่นๆ ผลิตเป็นผักปลอดสารพิษ เพราะไม่เคยใช้สารป้องกันและกำจัดศัตรูพืชเลยเป็นที่สังเกตว่า ในการปลูกผักหวานป่าของคุณลุงสังวาลจะใช้แรงงานในครัวเรือนซึ่งมีเพียง 2 ตายายที่เก็บยอดขายเท่านั้น จะจ้างแรงงานเข้ามาเพิ่มเติม 1-2 คน ช่วงที่ผลผลิตชุกเท่านั้น
                ภาค รัฐคือ ทางอำเภอบ้านหมอร่วมกับ สนง.เกษตรอำเภอบ้านหมอ และองค์กรส่วนท้องถิ่นได้มีการประชาสัมพันธ์การปลูกผักหวานป่ามาอย่างต่อ เนื่องด้วยการจัดงาน เทศกาลผักหวานป่าไร้สารพิษ ติดต่อกันมาถึงปีนี้ พ.ศ. 2548 รวม 4 ปี ซึ่งจัดเสร็จสิ้นไปแล้วระหว่าง วันที่ 25-27 มีนาคมที่ผ่านมา มีเกษตรกรและผู้สนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก และเป็นกิจกรรมทางการเกษตรที่น่าส่งเสริมและให้การสนับสนุนตลอดไป
เพาะเมล็ดผักหวานป่าให้รอดตายทั้งหมด

                 คุณลุงสังวาล ได้อธิบายถึงวิธีการขยายพันธุ์ผักหวานป่าด้วยวิธีการเพาะเมล็ด เริ่มต้นจากการคัดเลือกเมล็ดผักหวานป่าควรจะคัดเลือกเก็บเกี่ยวจากต้นที่มี อายุมากๆ ส่วนใหญ่จะได้เมล็ดที่มีความสมบูรณ์และมีเปอร์เซ็นต์การงอกสูง ธรรมชาติของการออกดอกติดผลของต้นผักหวานป่าจะคล้ายกับลางสาดที่ออกตามลำต้น ผลจะเป็นพวง เมื่อผลสุกจะมีสีเหลือง

                ขั้น ตอนในการเพาะจะเริ่มจากนำผลผักหวานป่าที่สุก (ดูจากสีผลมีสีเหลือง) โดยปกติผลจะแก่ในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม เมื่อเก็บเมล็ดมาแล้วควรจะเพาะทันที แยกเนื้อหุ้มเมล็ดทิ้ง (ในขณะที่แยกเนื้อควรใส่ถุงมือ เพราะมียางที่เปลือก) ขัดล้างเมล็ดให้สะอาดจนมีสีขาว นำเมล็ดไปแช่น้ำ แยกเมล็ดที่สมบูรณ์ไว้ (เมล็ดที่สมบูรณ์จะจมน้ำ ส่วนเมล็ดที่ลอยน้ำควรแยกทิ้ง) หลังจากนั้น นำเมล็ดมาบ่มเพาะให้เกิดการงอกเสียก่อน โดยนำมาเพาะในขี้เถ้าดำ โปรยเมล็ดผักหวานป่าให้ทั่วและกลบด้วยขี้เถ้าแกลบหนาประมาณ 1 นิ้ว รดน้ำให้ชุ่มติดต่อกัน 4-5 วัน มาคุ้ยดูเลือกเมล็ดที่กำลังงอก (สังเกตเปลือกเมล็ดจะเริ่มแตกร้าว)

1

กระทู้

5

โพสต์

44

เครดิต

Beginner

Rank: 1

เครดิต
44
วัสดุเพาะเมล็ด

                ถ้าจะให้ผลดีนั้น คุณลุงสังวาลบอกว่า ควรใช้ส่วนผสมของ ดินลูกรัง, ทรายหยาบ และปุ๋ยคอก (หรือใช้ใบไม้ผุ) ผสมกันในอัตราส่วน 1:1:1 กรอกดินผสมลงในถุงดำ (ถ้าจะเก็บต้นกล้าไว้ปลูกนานๆ ควรใช้ถุงดำทรงสูง) นำเมล็ดที่งอกหยอดใส่ลงในถุง ควรหาไม้แทงนำก่อนเอาส่วนที่งอกเป็นรากลงอย่าให้รากหัก แล้วนำไปวางไว้ในที่ร่มรำไร ช่วงที่ดูแลต้นกล้าจะต้องรดน้ำให้ชุ่มชื้นและอย่าให้ขังแฉะ ต้นกล้าผักหวานที่มีอายุ 2 เดือนครึ่ง จะมีความสูงเฉลี่ย 5-10 เซนติเมตร เท่านั้น และเมื่อนำไปปลูกเมื่อต้นมีอายุได้ 1 ปี ต้นจะสูงเพียง 1 ฟุต เท่านั้น ซึ่งจัดเป็นพืชที่เจริญเติบโตช้ามาก ผู้ปลูกจะต้องใจเย็นและไม่เร่งการเจริญเติบโตด้วยการใส่ปุ๋ยเคมีอย่างเด็ด ขาด

                คุณ ลุงสังวาล ยังแนะนำสำหรับผู้ที่จะปลูกผักหวานป่าควรจะซื้อต้นกล้าที่ไม่ได้เพาะมาค้าง ปี เนื่องจากจะพบปัญหารากขาดเมื่อนำไปปลูกรากจะฉีกขาด จะทำให้ต้นตายในเวลาต่อมา คุณลุงสังวาล บอกว่า มีเกษตรกรในเขตตำบลสร่างโศกหลายรายจะปลูกต้นผักหวานป่าด้วยการนำเมล็ดไปหยอด ในแปลงปลูกเลย เพื่อตัดปัญหาเรื่องผลกระทบต่อราก แต่จะต้องหมั่นรดน้ำให้ต่อเนื่อง 2-3 เดือนก่อนที่ยอดจะโผล่พ้นดิน

                สำหรับ วิธีการขยายพันธุ์ผักหวานป่าด้วยวิธีการตอนกิ่งซึ่งพบความสำเร็จน้อยมาก ทางชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตรได้พยายามค้นหาตัวอย่างเกษตรกรที่ประสบ ความสำเร็จในการตอนกิ่งผักหวานป่าได้พบเกษตรกรรายหนึ่งคือ คุณรับ พรหมมา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ตำบลหนองบัว อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี ได้ใช้กะปิแทนยาเร่งรากด้วยการนำกะปิมาผสมกับน้ำให้พอข้นๆ (ทากิ่งแล้วติดไม่หลุด) วิธีการตอนเหมือนกับการตอนต้นไม้ทั่วๆ ไป วัสดุตอนใช้ขุยมะพร้าวแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 1 อาทิตย์ ก่อนอัดลงถุงกิ่งที่จะเลือกตอนควรเป็นกิ่งที่ไม่แก่และอ่อนเกินไป เป็นกิ่งที่มีอายุอยู่ระหว่าง 1-2 ปี มีสีขาวออกน้ำตาล (ถ้าตอนกิ่งแก่จัดรากจะออกไม่ค่อยดี) เช่นกันเมื่อกิ่งตอนออกรากขณะที่ตัดกิ่งลงมาชำจะต้องระวังเรื่องรากอย่าให้ กระทบกระเทือน

                วิธีสังเกตว่ารากออกดีหรือยัง

จะต้องดูที่สีของรากที่ออกมาจากการตอนรากที่ออกมาครั้งแรกจะมีสีขาว เมื่อรากเปลี่ยนเป็นสีเขียวและเป็นสีน้ำตาลให้ตัดกิ่งตอนมาชำได้ เมื่อนำกิ่งตอนไปปลูกอาจจะมีเทคนิคการปลูกที่แตกต่างจากการปลูกด้วยต้นเพาะ เมล็ด ก่อนปลูกจะต้องปักหลักมัดกับต้นเพื่อป้องกันลมพัดโยก
ปัจจัยในการงอกของต้นผักหวานป่า

                คุณ ลุงสังวาล ได้เล่าประสบการณ์ของการปลูกผักหวานป่ามานานกว่า 20 ปี ว่านิสัยของต้นผักหวานป่าจะชอบพื้นที่ที่มีแสงแดดรำไร ประมาณ 50% เจริญเติบโตดีในร่มไม้ใหญ่ เช่น ร่มจากต้นมะขามเทศ สะเดา ฯลฯ แต่ถ้าจะปลูกในที่โล่งแจ้งจะต้องปลูกไม้พี่เลี้ยงไว้ข้างๆ หลุมปลูกเพื่อเป็นร่มเงาให้ เช่น ปลูกพริก มะเขือเปราะ ชะอม ฯลฯถ้าเป็นไปได้ไม้พี่เลี้ยงควรปลูกจนต้นผักหวานป่ามีอายุได้อย่างน้อย 2 ปีในขณะเดียวกันจะรู้นิสัยของต้นผักหวานป่าชอบอากาศร้อน จะช่วยให้แตกยอดดี โดยเฉพาะในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ต้นจะแตกยอดให้เก็บขายได้ แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนยอดจะหมดและพักต้นเพื่อสะสมอาหารเพื่อแตกยอดใหม่ในฤดู กาลต่อไป

ขอบคุณ คุณลุงสังวาล เจริญสุข บ้านเลขที่ 74 หมู่ 3 ตำบลสร่างโศก อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี โทร. (036) 300-385

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

กระทู้ล่าสุด
  1. 39ทาร์ทาริกแอซิด, กรดทาร์ทาริก, Tartaric Acid, เกรดอาหาร, วัตถุเจือปนอาหาร, Food Grade, Food Additive
  2. 43ฟอสฟอริกแอซิด, กรดฟอสฟอริก, Phosphoric Acid, เกรดอาหาร, วัตถุเจือปนอาหาร, Food Grade, Food Additive
  3. 41มาลิกแอซิด, กรดมาลิก, Malic Acid, เกรดอาหาร, วัตถุเจือปนอาหาร, Food Grade, Food Additive
  4. 38ฟูมาริกแอซิด, กรดฟูมาริก, Fumaric Acid, เกรดอาหาร, วัตถุเจือปนอาหาร, Food Grade, Food Additive
  5. 45ซิตริกแอซิด, กรดซิตริก, กรดมะนาว, Citric Acid, เกรดอาหาร, วัตถุเจือปนอาหาร, Food Grade, Food Additive
  6. 41แอสคอร์บิกแอซิด, กรดแอสคอร์บิก, Ascorbic Acid, เกรดอาหาร, วัตถุเจือปนอาหาร, Food Grade, Food Additive
  7. 47อะซีติกแอซิด, กรดอะซีติก, Acetic Acid, เกรดอาหาร, วัตถุเจือปนอาหาร, Food Grade, Food Additive
  8. 173ขี้เถ้าแกลบดำ
  9. 171ตาชั่ง รถบรรทุก6ล้อ หน้าเหล็ก ขนาด 2.5x5เมตร น้ำหนัก20ตัน อุปกรณ์ครบ จอ เครื่องปริ้นท์ ครบ พร้อมใช้งาน ราคา 99,000บาท โทร : 094-7899445 www.TractorM.com
  10. 176ตัดหญ้าสะพายหลัง KAWA มือสองญี่ปุ่น สภาพสวย เครื่องดี แรง ไม่จุกจิกไม่พังง่ายเหมือนของใหม่ เช็คให้พร้อมใช้งาน ราคา 3,500บาท รวมส่งฟรี โทร : 094-7899445 www.TractorM.com

www.farmthailand.com

GMT+7, 2024-11-25 16:05 , Processed in 0.108098 second(s), 29 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140101, Rev.29

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้