ตลาดเกษตร

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ค้นหา
ดู: 6289|ตอบกลับ: 3
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

การทำให้ปลาไม่คาวในการปรุงอาหาร

[คัดลอกลิงก์]

1

กระทู้

4

โพสต์

21

เครดิต

Beginner

Rank: 1

เครดิต
21
สารพัดวิธีการทำให้ปลาไม่คาวในการปรุงอาหาร

  เคล็ดลับดีๆ สำหรับวันหลายท่านทำเมนูปลาทีไร ทำไมถึงได้คาว วันนี้เราจะมาดูเคล็ดลับเล็กน้อยๆ สำหรับเมนูปลาต่างๆ ทำอย่างไรไม่ให้มีปลามีกลิ่นคาว เมื่อนำมาปรุงอาหาร และยังมีแถมเคล็ดลับอื่นๆ จะทอดปลาให้กรอบเหมือนในร้านอาหารทำอย่างไร ดับกลิ่นคาวของปลาที่ติดอยู่กับภาชนะเมื่อปรุงอาหารเสร็จจะทำอย่างไรที่สารพัดเมนูปลามีมาให้เราได้จัดการกัน
     
  1. ปลาดุกทำอย่างไร ถึงจะไม่กลิ่นคาว  
- การทอดปลาดุกไม่ให้มีกลิ่นคาว ก่อนที่เราจะทำไปล้างให้นำแป้งมัน มาคลุกเคล้าตัวปลาจนทั่วแล้วจึงล้างออกให้สะอาด จะทำให้เหมือกที่ติดกับตัวปลาและเลือดต่างในน้ำออกไปได้มาก เมื่อเรานำปลาไปทอดเนื้อปลาจะสวยและไม่มีกลิ่นคาว         

- อีกวิธีหนึ่งสำหรับการทำปลาดุกคือ การล้างด้วยน้ำส้มสายชูก่อน แล้วจึงค่อยนำปลามาคลุกเคล้าและหมักกับเครื่องปรุง ก่อนนำไปย่างไป จะทำให้ปลาดุกมีรสชาติอร่อยยิ่งขึ้น และไม่มีเหม็นคาว
     
   2. ปลาช่อนทำอย่างไร ไม่ให้มีกลิ่นคาว         
  - ให้ใช้เกลือป่นคลุกตัวปลาให้ทั่วเวลาจะขอดเกล็ด จะทำให้ขอดเกล็ดปลาได้ง่ายขึ้นและไม่ลื่น พอขอดเกล็ดปลาเสร็จก็ให้นำไปล้างด้วยสารส้ม จากนั้นทาด้วยน้ำมะนาวอีกครั้ง เนื้อปลาจะขาว และไม่มีกลิ่นคาว
      
  3. ขอดเกล็ดปลาอย่างง่าย         
  - วิธีการง่ายๆ เตรียมจานหรือภาชนะอื่นๆ ที่สามารถทนความร้อนใส่ของร้อนๆ ได้ จากนั้นให้คุณเทน้ำร้อนที่ร้อนจัด ลงไปบนตัวปลา แล้วเทน้ำทิ้ง ต่อด้วยเทน้ำเย็นใส่แทน อุปกรณ์ต่อมาใช้มือถูกเพียงเบาๆ ที่่ตัวปลาเกล็ดของปลาก็จะหลุดออกมาอย่างง่ายดาย
     
   4. ต้มยำปลาอย่างไรไม่เหม็นคาว และสดน่าทาน         
  - นอกจากเคล็ดลับตั้งแต่การล้างตัวปลา และเนื้อปลาก่อนที่จะนำมาปรุงเป็นอาหารนั้น ขั้นตอนในการปรุงหรือการทำก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะมีส่วน ปลาจะมีกลิ่้นคาวหรือไม่เหมือนกันนะ การต้มยำปลาไม่ให้มีกลิ่นคาวนั้น
  เคล็ดลับง่ายๆ คือ เราต้องต้มน้ำให้เดือนก่อนและใส่เครื่องปรุงเครื่องต้มยำต่างๆ เข้าไป ให้น้ำเดือนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงค่อยนำปลาลงไป โดยไม่ต้องคนเด็ดขาด เมื่อสุดแล้วจึงใส่ต้นหอม หรือผัดในขั้นตอนสุดท้าย ก็จะได้ต้มยำที่ไม่มีกลิ่นคาว และเนื้อปลาจะไม่เละด้วย         

- และเมื่อใส่เนื้อปลาแล้ว ทุกอย่างได้ที่แล้ว มีเทคนิคอย่างหนึ่ง คือ ให้บีบ น้ำมะนาวลงไปสักเล็กน้อย เพื่อให้เนื้อปลาแข็งตัว มีเนื้อขาวสวยและแกงนั้นไม่เหม็นคาวด้วย         

- นอกนจากนั้น ยังมีอีกวิธี คือเวลาที่เราต้มปลา ให้นำใบชาจีนมาใส่ลงในหม้อต้มปลาสัก 6-7 ใน ใบชาจะช่วยดับกลิ่นคาวได้เยอะทีเดียว และจะให้หมดกลิ่น และมีรสชาติด้วยควรทุบหัวหอม และกระเทียมลงไปซัก 2-3 กลีบ ลองทำดูนะ
      
5. คนที่ชอบหัวปลา ทำอย่างไรไม่ให้มีกลิ่นคาว         
- วิธีการต้มหัวปลา เช่นเดียวกัน ให้น้ำเดือดจัดๆ และใส่ตะใคร้ (มากหน่อย) และใบมะกรูด หลัวจากนั้นเตรียมหัวปลาที่เตรียมไว้ไม่ว่าจะเป็น ปลากระพง ปลาเก๋าก็ตาม ใส่ลงไปต้มสัก 1 นาที แล้วเอาขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำเสียก่อน แล้วหลังจากนั้นจึงค่อยนำมาประกอบเป็นอาหารต่างๆ นอกเหนือจากต้มยำ อาทิเช่น ข้าวต้มปลา เป็นต้น
      

1

กระทู้

4

โพสต์

21

เครดิต

Beginner

Rank: 1

เครดิต
21
วิธีการทอดปลาให้หนังสวย และไม่ติดกะทะ และกรอบน่าทาน
- หลายๆ ครั้งคุณแม่บ้านทอดปลาแล้วเกิดปัญหาบ่อยๆ คือ หนังปลาหลุด หรือติดกะทะ หนังถลอกบ้าง ไม่สวยงาม และอีกอย่างเวลาทอดปลา น้ำมันกระเด็ดเลอะเทอะไปทั่วเลย วันนี้เรามีวิธีแก้ปัญหานี้มาแนะนะ

- วิธีคือ เมื่อล้างปลาเสร็จแล้วให้ซับเนื้อปลาให้แห้ง และใช้น้ำมะนาวทาให้ทั่วแล้วจึงคลุกด้วยเกลือ การคลุกเกลือป่นจะทำให้เมื่อเวลาเราทอดปลาน้ำมันจะไม่กระเด็น เวลาจะนำปลาลงทอดให้น้ำมันร้อนก่อนนะ และรอจนปลาลอยตัวขึ้นมาแล้วจึงค่อยพลิกกลับอีกด้านหนึ่ง ไม่ควรพลิกบ่อยๆ เพราะจะทำให้หนังปลาถลอก และเนื้อปลาหลุด ดูไม่น่ารับประทาน

- อีกวิธี คือ เมื่อเราตั้งกะทะให้ร้อน นำเกลือลงคั่วประมาณ 2 นาที จึงเทเกลือออกจากกะทะ ใส่น้ำมันลงในกะทะที่คั่วเกลือโดยไม่ต้องล้างกะทะ พอน้ำมันร้อนนำปลาลงทอดใช้ไฟปานกลาง ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งนะ ลงทดลองทำดู

- การทอดปลาให้เนื้อกรอบเหมือนร้านอาหาร อันดับแรก ปลาที่นำมาทอดควรจะเป็นปลาที่ใหม่สด.แน่นอนเนื้อจะไม่ติดกะทะ - ถ้าชอบกรอกมากให้คลุกปลากับแป้งข้าวโพดก่อนนำไปทอด แป้งข้าวโพดจะช่วยให้เนื้อปลากรอบยิ่งขึ้น

- สิ่งสำคัญในการทอดปลาให้กรอบก็คือ น้ำมันจะต้องใหม่ และต้องท่วมตัวปลาและต้องใช้ความร้อนปานกลางไม่แรงเกินไป และไม่เบาจนเกินไป

- เกี๊ยวปลา - ในการทำเกี๊ยวปลา ควรเลือกใช้เนื้อปลากรายหรือปลาน้ำดอกไม้สดๆ มาทำแผ่นเกี้ยวปลา แล้วในขณะบดเนื้อปลาให้ค่อยๆ เติมน้ำเกลือลงไปทีละน้อย แล้วจึงใส่แป้งมันลงในเนื้อปลาตีพร้อมน้ำแข็งลงไปด้วยในขณะบด

- จากนั้นนำเนื้อปลามาคลึงบนแผ่นพลาสติกที่ท่าน้ำมัน โดยคลึงให้เป็นแผ่นบางๆ แล้วจึงค่อยตัดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยม เมื่อจะต้มเกี้ยวปลาที่ทำเสร็จแล้วนั้นน้ำจะต้องเดือนจัดๆ มิฉะนั้นจะเหม็นคาว

- การต้มเค็มปลาตะเพียน
- การต้มปลาโดยทั่วไปมักเกิดปัญหาเนื้อปลาเละ ดูไม่น่ารับประทาน เคล็ดลับง่ายๆ ในการต้มปลาตะเพียน โดยไม่ให้เนื้อปลาหลุดลุ่ยออกจากตัวปลา

- เมื่อทำความสะอาดปลาตัดหาง ตัดครีบ เรียบร้อยแล้ว นำเกลือป่นมาทาให้ทั่วตัวปลา แล้วพักไว้ 20 นาที จากนั้นนะมาล้างเอาเกลือออก ทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำพักแล้วจึงนำไปต้มจะได้ปลาต้มเค็มที่มีรูปร่างครบทุก ส่วน เนื้อปลาก็ไม่หลุดลุ่ย

- ดับคาวปลาด้วยมะนาว
- ปลาเป็นเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่าย เหมาะสำหรับทุกเทศ ทุกวัย ราคาก็ไม่แพง เราสามารถนำปลาไปประกอบอาการได้หลายอย่าง เช่น ต้ม ปิ้ง นึ่ง ทอด เผาเกลือ แต่บางคนจะไม่นิยมรับประทาน เพราะเห็นว่าปลามีกลิ่นคาว จะต้มจะแกงก็เหม็นคาวเลยเป็นผลทำให้ไม่อยากรับประทานปลา เลยต้องหันไปทานเนื้อสัตว์จำพวก เนื้อหมูไก่แทน ทั้งๆ ที่ปลาราคาถูกกกว่า

- วิธีแก้กลิ่นคาวปลา โดยง่ายๆ คือ ฝานมะนาวบางๆ แช่ในน้ำที่จะนำไปล้างปลา มะนาว 1 ลูก ต่อน้ำ 1 ลิตร พอเราขอดเกล็ดปลาเสร็จแล้ว ก็ควักไส้ออก นำปลาที่ทำเสร็จไปวางในน้ำมะนาว

- น้ำนมสามารถทำให้ปลามีสีน้ำตาล - น้ำนมนั้นมีคุณค่ามากมายนอกจากจะใช้ดื่มกินแล้ว สามารถนำมาดัดแปลงเป็นอาหารที่มีคุณค่าเพิ่มขึ้นได้อีก อย่างเช่น - การทอดปลาจะให้มีสีน้ำตาลสวย เราทำได้ไม่ยาก เพียงแค่เรานำปลาไปล้างทำความสะอาด และก่อนทอดปลาให้จุ่มปลาลงในนมที่เตรียมไว้ จึงนำปลาไปชุบแป้งทอด จะทำให้เนื้อปลามีสีน้ำตาลเนื้อนุ่ม น่ารับประทาน

- ปลาย่างเนื้อแข็ง แก้ได้ - การถนอมอาหาร เช่น ปลาซ่อน ปลาดุก ปลาหมอ ปลาตะเพียน โดยเฉพาะปลาย่างเป็นที่นิยมทำกันมาก แต่ถ้าคุณแม่บ้านเคยทำปลาย่างแล้วแข็งทานไม่ได้ จะนำมาตำน้ำพริกก็ตำยาก วิธีง่ายๆ คือ นำปลาย่างมาแกะใส่ครกแล้วบีบน้ำมะนาวใส่ลงไป แล้วจะตำจะทำให้เนื้อปลาแหลกง่าย และฟูขึ้น

- เก็บรักษาปลาไม่ให้เหม็น - วิธีตาก ถ้าเราจะเก็บปลาดุก ปลาช่อน ปลาสลิด เอาไว้ทำอาหารทานนานๆ โดยไม่ส่งกลิ่นเหม็นเราสามารถทำได้โดย เมื่อทำเสร็จแล้วควรล้างน้ำให้สะอาดประมาณ 2-3 ครั้ง (และเคล้าเกลือหมักไว้และใส่ผงชูรสไปซักนิดหนึ่ง) ไม่ต้องมาก ทิ้งไว้ประมาณ 2-6 ชั่วโมง เมื่อได้เวลาที่ตั้งไว้ก็กลับปลาเอาด้านพุงหงายขึ้นให้ได้แดดอีกประมาณ 3 ชั่วโมง เท่านั้นก็สามารถระงับกลิ่นปลาได้ส่วนหนึ่ง

1

กระทู้

4

โพสต์

21

เครดิต

Beginner

Rank: 1

เครดิต
21
    - วิธีเก็บรักษา การเก็บรักษาเป็นเรื่องไม่ยากนัก วิธีทำคือ นำเอาปลาที่ตากไว้มาห่อด้วยกระดาษทิชชูให้รอบตัวปลาซัก - รอบ (ห่อให้มิดชิดนะ) เมื่อห่อเสร็จแล้วเราก็ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่ออีกครั้ง และใส่ถุงปิดปากให้มิดชิดนำใส่ตู้เย็นแช่ไว้ เท่านี้ปลาเราที่เคยส่งกลิ่นเหม็นก็ไม่สามารถทำให้เราหงุดหงิดกับกลิ่นได้ แล้ว

- ทำปลาให้หมดกลิ่นเน่า - ปลาดุก หรือปลาช่อน ถ้ามีกลิ่นเน่าอย่าทิ้ง มีวิธีแก้ดังนี้ นำปลาไปย่างให้สุก แล้วนำมาสับผึ่งลมให้แห้งหมาดๆ นำไปทอดให้กรอบฟูในน้ำมัน ใส่ใบเตย 6 ใบ ม้วนให้เป็นก้อน เมื่อปลาสุกแล้วกลิ่นเหม็นก็จะหายไปหมดสิ้น

- ต้มปลาให้ก้างยุ่ย - ถ้าแม่บ้านท่านไหนรำคาญใจกับปลาที่มีก้างเล็กน้อยๆ มากเหลือเกินเมื่อนำมาทำอาหาร อย่างปลากระมังหรือปลาหมอ ถ้าเราจะต้องการให้เนื้อปลาแข็งแต่ก้างยุ่ยเหมือนก้างปลากระป๋องละก็ วิธีง่ายๆเลย - เพียงใช้อ้อยมาปลอกเปลือกข้างนอกออกแล้วตัดเป็นเสี้ยวเล็กๆ นำมาวางเรียงในหม้อที่เราจะใช้ต้มปลานำปลามาวางทับ แล้วเติมน้ำลงไปพอประมาณ นำไปตั้งไปสัก 40 นาที เราจะสังเกตุได้ว่าปลานั้นตัวยังแข็งอยู่ เนื้อปลาไม่เละแล้วยังเก็บไว้ได้นานอีกด้วย ยิ่งต้มหลายวันยิ่งอร่อยและก้างยุ่ยมาก

- หม้อเหม็นคาวปลา - ปัญหาที่เกิดตามมาเมื่อปรุงอาหารประเภทปลา คือ ภาชนะที่ใช้จะมีกลิ่นคาวติดอยู่ เมื่อเรานำภาชนะนั้นไปประกอบอาหารชนิดอื่นๆ เช่นขนมหวารก็จะทำให้ขนมนั้นมีกลิ่นคาวปลา วิธีแก้ปัญหาคือ

- ให้น้ำชาหรือกากชาที่ใช้ชงดื่มกันในบ้าน นำมาใส่ลงในภาชนะที่ต้องการดับกลิ่นความปลา แล้วต้มให้เดือน จากนั้นจึงล้างน้ำออกให้สะอาดน้ำชาจะช่วยดูดกลิ่นความของปลา ออกจากภาชนะ หรือจะใช้อีกวิธีหนึ่งคือ

- ให้ใช้ถ่านที่เราใช้หุงข้าวจุดเตา ใส่ในภาชนะที่ต้องการจะดับกลิ่นคาวปลาแล้วเติมน้ำต้มจนเดือน วิธีนี้ก็จะช่วยให้ดับกลิ่นได้เหมือนกัน แต่อาจจะเลอะเทอะหน่อยนะ

0

กระทู้

2

โพสต์

6

เครดิต

Beginner

Rank: 1

เครดิต
6
ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลดีดี..














.............
คิมูจี
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

กระทู้ล่าสุด
  1. 25ทาร์ทาริกแอซิด, กรดทาร์ทาริก, Tartaric Acid, เกรดอาหาร, วัตถุเจือปนอาหาร, Food Grade, Food Additive
  2. 30ฟอสฟอริกแอซิด, กรดฟอสฟอริก, Phosphoric Acid, เกรดอาหาร, วัตถุเจือปนอาหาร, Food Grade, Food Additive
  3. 27มาลิกแอซิด, กรดมาลิก, Malic Acid, เกรดอาหาร, วัตถุเจือปนอาหาร, Food Grade, Food Additive
  4. 26ฟูมาริกแอซิด, กรดฟูมาริก, Fumaric Acid, เกรดอาหาร, วัตถุเจือปนอาหาร, Food Grade, Food Additive
  5. 32ซิตริกแอซิด, กรดซิตริก, กรดมะนาว, Citric Acid, เกรดอาหาร, วัตถุเจือปนอาหาร, Food Grade, Food Additive
  6. 30แอสคอร์บิกแอซิด, กรดแอสคอร์บิก, Ascorbic Acid, เกรดอาหาร, วัตถุเจือปนอาหาร, Food Grade, Food Additive
  7. 31อะซีติกแอซิด, กรดอะซีติก, Acetic Acid, เกรดอาหาร, วัตถุเจือปนอาหาร, Food Grade, Food Additive
  8. 163ขี้เถ้าแกลบดำ
  9. 161ตาชั่ง รถบรรทุก6ล้อ หน้าเหล็ก ขนาด 2.5x5เมตร น้ำหนัก20ตัน อุปกรณ์ครบ จอ เครื่องปริ้นท์ ครบ พร้อมใช้งาน ราคา 99,000บาท โทร : 094-7899445 www.TractorM.com
  10. 164ตัดหญ้าสะพายหลัง KAWA มือสองญี่ปุ่น สภาพสวย เครื่องดี แรง ไม่จุกจิกไม่พังง่ายเหมือนของใหม่ เช็คให้พร้อมใช้งาน ราคา 3,500บาท รวมส่งฟรี โทร : 094-7899445 www.TractorM.com

www.farmthailand.com

GMT+7, 2024-11-22 12:12 , Processed in 0.060211 second(s), 25 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140101, Rev.29

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้