ตลาดเกษตร

ชื่อกระทู้: น้ำปุ๋ย..ฟาร์มสีเขียว ดันน้ำหนักอ้อยเพิ่มเท่าตัว [สั่งพิมพ์]

โดย: kasetnumchai    เวลา: 2015-7-3 16:26
ชื่อกระทู้: น้ำปุ๋ย..ฟาร์มสีเขียว ดันน้ำหนักอ้อยเพิ่มเท่าตัว
น้ำปุ๋ย..ฟาร์มสีเขียว ดันน้ำหนักอ้อยเพิ่มเท่าตัว




แม้ปีนี้เกษตรกรต้องเผชิญกับปัญหาภัยแล้งยาวนานกว่าปีก่อนๆ แต่ชาวไร่อ้อยรอบฟาร์มสุกรกาญจนบุรี ต.สระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ยังคงยิ้มได้ ไม่ต้องกังวลว่าอ้อยจะเสียหายจากการขาดน้ำ... เพราะต่างได้รับการแบ่งปัน “น้ำปุ๋ย” จากฟาร์มสุกรสีเขียวของซีพีเอฟมาราดรด ไม่เพียงช่วยบรรเทาปัญหาแล้งจัด ยังช่วยเพิ่มผลผลิตได้อีกด้วย
“เราเดือดร้อนเรื่องน้ำมาก เพราะอยู่นอกเขตชลประทาน ทำให้บางปีต้นอ้อยต้องตาย แต่หลังจากได้น้ำปุ๋ยจากฟาร์มหมูของซีพีเอฟติดต่อกันมา 5 ปี นอกจากต้นอ้อยจะไม่เคยขาดน้ำแล้ว จากเดิมที่เคยได้อ้อยไร่ละ 6-7 ตัน กลับได้เพิ่มมาเป็น 15 ตันต่อไร่ ทั้งที่ใช้ปุ๋ยน้อยกว่าเมื่อก่อนครึ่งหนึ่ง รายได้เพิ่ม รายจ่ายลง เพราะช่วยประหยัดเงินค่าปุ๋ยได้มาก นี่ขนาดไม่ได้ปรับพื้นที่อะไรมาก ปีหน้าจะไถปรับที่ให้ดีกว่านี้ ให้พื้นที่สม่ำเสมอ เพื่อน้ำปุ๋ยจะได้ไหลเข้าทั่วแปลง น่าจะ ช่วยให้ผลผลิตเพิ่มเป็น 20 ตันต่อไร่ เหมือนเพื่อนแปลงใกล้กันเขาทำได้”


ชำนาญ เพ็ชรปานกัน หนึ่งในชาวไร่อ้อยที่ได้น้ำปุ๋ยแบ่งปันน้ำจากฟาร์มมาใช้ในไร่ของตนเองกว่า 60 ไร่ วาดฝันถึงผลผลิตที่จะได้ในอนาคตอันใกล้
เช่นเดียวกับ กำนันระเบียบ ปทุมสูตร ปลูกอ้อย 100 กว่าไร่ ใช้น้ำปุ๋ยจากฟาร์มตั้งแต่ปีแรกๆ เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่ใช้น้ำปุ๋ย ต้นอ้อยแตกกอดี แข็งแรง และจากการปรับพื้นที่ให้สม่ำเสมอ ต้นอ้อยได้รับน้ำปุ๋ยอย่างทั่วถึง ส่งผลให้ ตนสามารถเก็บเกี่ยวอ้อยได้สูงถึง 20 ตันต่อไร่ และเมื่อส่งไปโรงหีบอ้อย ความหวานที่วัดได้ก็อยู่ในระดับ 10 กว่า และที่สำคัญช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมี
“เพราะการรดต้นอ้อยด้วยน้ำปุ๋ย ได้ทั้งน้ำทั้งปุ๋ยบำรุงต้นอ้อยไปพร้อมกัน และเพื่อความมั่นใจว่าใช้แล้วดีจริง ชาวบ้านยังได้ให้หมอดินประจำอำเภอ มาตรวจสภาพดินด้วยว่าเป็นอย่างไร พบว่าดินที่ใช้น้ำปุ๋ยมีสภาพเป็นกลาง เหมาะกับการปลูกพืชทุกชนิด ยิ่งช่วยให้เกษตรกรมั่นใจที่จะใช้น้ำปุ๋ยต่อไป”


นายวิโรจน์ ใจบุญมา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการกิจการผลิตสุกรภาคตะวันตก ฟาร์มสุกรกาญจนบุรี บอกว่า “น้ำปุ๋ย” ที่เกษตรกรเรียกกันติดปาก คือน้ำปนมูลสุกรผ่านการบำบัดด้วยระบบไบโอแก๊ส และถูกนำมาพักในบ่อตกตะกอน บ่อสุดท้าย มีคุณภาพตามมาตรฐานที่ผ่านกระบวนการบำบัดของกรมควบคุมมลพิษ
และจากการศึกษาธาตุอาหารที่อยู่ในน้ำปุ๋ย ทางซีพีเอฟพบว่า มีสารอาหารสำหรับพืชผล 2 ตัวหลัก คือ มีโปแตสเซียม 297 มก.ต่อน้ำ 1 กก. และมีไนโตรเจน 154 มก.ต่อน้ำ 1 กก.
โปแตสเซียมเป็นแร่ธาตุที่เหมาะกับพืชตระกูลอ้อย ช่วยให้อ้อยเติบโตดีและช่วยเพิ่มความหวานของอ้อย ส่วนไนโตรเจนเป็นธาตุอาหารที่ช่วยบำรุงต้นใบอ้อยให้เขียว แตกกอได้ดี นอกจากนั้น น้ำปุ๋ยยังมีโซเดียม, แมกนีเซียม, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส ซึ่งมีประโยชน์ต่อพืชอีกด้วย


และจากการที่ซีพีเอฟได้จ่ายน้ำปุ๋ยจากฟาร์มปราจีนบุรี 1 ให้เกษตรกรไปใช้รดไผ่ตงและมันสำปะหลัง มา 4-5 ปี เกษตรกรให้ข้อมูลว่า ช่วยให้ไผ่ตงมีผลผลิต ดีขึ้น สามารถลดการใช้ปุ๋ยได้ถึงครึ่งหนึ่ง ส่วนมันสำปะหลัง เห็นผลชัดเจนหัวมันมีขนาดใหญ่ขึ้น น้ำปุ๋ยยังช่วยให้ดินร่วนซุย ทำให้ขุดหัวมันง่าย และช่วยลดระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวให้สั้นลงได้อีกด้วย.


ชาติชาย ศิริพัฒน์
เครดิต ไทยรัฐ


EyWwB5WU57MYnKOuXxtuOOBr5jnHptuCve3QWwPmumrDeiO5HO6tOF.jpg (61.47 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 617)

EyWwB5WU57MYnKOuXxtuOOBr5jnHptuCve3QWwPmumrDeiO5HO6tOF.jpg





ยินดีต้อนรับสู่ ตลาดเกษตร (http://www.farmthailand.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.1