ตลาดเกษตร
ชื่อกระทู้: การปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ช้าง ในส่วนของการเลือกใช้วัสดุและเครื่องปลูก [สั่งพิมพ์]
โดย: panurat เวลา: 2014-8-28 08:39
ชื่อกระทู้: การปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ช้าง ในส่วนของการเลือกใช้วัสดุและเครื่องปลูก
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย panurat เมื่อ 2014-8-28 08:42
วันนี้มีเรื่องราวการแชร์ประสบการณ์ใน การปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ช้าง ในส่วนของการเลือกใช้วัสดุและเครื่องปลูก มาฝากกัน
จะต้องใช้อย่างไรถึงจะดีและเหมาะสม เริ่มกันที่ไม้ขวดกันก่อน สำหรับคนที่ซื้อไม้ขวดมาเพื่อต้องการออกขวดเองนั้น
ก่อนที่จะทำการออกขวดจะด้วยวิธีการใช้ตะขอเกี่ยวออกมาทีละต้นหรือจะใช้วิธีทุบขวดเลย
ก็ต้องดูขนาดของต้นในขวดก่อนนะครับ เพราะโดยปกติไม้ขวดที่ซื้อกันมา บางขวดขนาดต้นอ่อนยังมีขนาดเล็กยังไม่เหมาะที่จะเอาออกจากขวด
ยังต้องเลี้ยงต่อไปในขวดซักระยะ แล้วระยะไหนที่ต้องออกขวดได้แล้ว ปล่อยต่อไม่ได้แล้ว
ก็คือสภาพรากเดินเต็มขวดหมด วุ้นอาหารในขวดแทบไม่เหลือ มีเชื้อราปรากฎ
ลักษณะเหล่านี้ควรเอาต้นอ่อนออกจากขวดแล้วปลูกลงวัสดุที่เตรียมไว้ สำหรับต้นอ่อนเหล่านี้สามารถใช้โฟมชิ้นเล็กๆหนีบแล้วจับลงกระถางเจี๊ยบได้เลย หรือจะใช้ใยตุ้มมะพร้าว (ไม่ใช่ขุยมะพร้าวหรือมะพร้าวก้อนสับนะครับ)
หุ้มส่วนรากให้โคนลอยเหนือตุ้มเล็กน้อยหรืออมโคนต้นเล็กน้อยแล้วใส่ลงกระถางเจี๊ยบก็ได้ หรือจะใช้สแฟกนั่มมอสเป็นเครื่องปลูกก็ได้ แต่ต้องระวังเรื่องความชื้นแฉะของเครื่องปลูกด้วย เพราะถ้าแฉะนานๆ รากจะเน่าง่าย
หรือจะจับลงกระถางโดยไม่ใส่วัสดุปลูกก็ได้แต่ต้องมั่นใจว่าสามารถควบคุมความชื้นได้ หรือจะจับมัดติดกับขอนไม้แล้วหนีบมะพร้าวสับบางๆไว้หน่อยที่รากก็ได้ ความสำคัญของไม้เล็กจะอยู่ที่การควบคุมความชื้นครับ ไม่มีอะไรตายตัว
แม้กระทั่งซาแลนก็สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องปลูกในไม้เล็กได้เช่นกัน ในการออกขวด ถ้าออกขวดในช่วงฤดูกาลที่ไม่ใช่ฤดูฝน การใช้เครื่องปลูกเช่นใยมะพร้าว หรือสแฟกนั่มมอส จะทำให้กล้วยไม้ขนาดเล็กเติบโตได้ดีและต่อเนื่อง
แต่สำหรับฤดูฝนแล้วเครื่องปลูกเหล่านี้อาจส่งผลกลับกันเพราะเนื่องจากฝนที่ตกลงมาอาจทำให้เครื่องปลูกชื้นแฉะตลอดเวลา อาจทำให้รากอ่อนเน่าเสียได้ง่าย ถ้าเป็นการออกขวดที่ไม่เยอะมากก็สามารถเอาวัสดุปลูกออกได้ แต่ถ้าปลูกเป็นจำนวนมากๆ
การที่จะต้องมานั่งเอาวัสดุปลูกออกทีละกระถางในช่วงฤดูฝนก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยากเช่นกัน เพราะฉะนั้นการออกขวดในแต่ละช่วงเวลาต้องคำนึงถึงเครื่องปลูกที่จะนำมาใช้ด้วย
สำหรับคนที่ซื้อไม้เจี๊ยบหรือไม้ที่อยู่ในกระเช้าพลาสติกเหลี่ยมมา แล้วต้องการเปลี่ยนกระถาง ถ้าให้ดีผมแนะนำให้ถอกกระถางเดิมออกก่อนดีกว่า
วิธีการถอดเอากระถางเดิมออก ก่อนอื่นก็เอากระถางไปแช่ในอ่างที่มีน้ำหรือจะใช้น้ำรดที่กระถางเลยก็ได้แต่ต้องให้ชุ่มทั้งราก ทิ้งไว้ซักพักแล้วค่อยๆแกะรากออกจากกระถางหรือจะใช้คีมตัดลวดอันเล็กๆ
หรือกรรไกรเล็กๆ ค่อยๆตัดเล็มกระถางออกก็ได้แต่ระวังตัดโดนรากหน่อยนะครับ ในกรณีที่รากเกาะกระถางแน่นมากจนยากที่จะแกะหรือตัดได้ก็จะวางทั้งกระถางลงในภาชนะปลูกอันใหม่เลยก็ได้ครับ
ข้อดีของการถอดกระถางเดิมออกก็คือไม่เป็นที่หมักหมม ทำให้โคนต้นด้านล่างสะอาด อากาศถ่ายเทได้สะดวก ลดการเน่าส่วนโคนได้ รากที่งอกใหม่สามารถเดินจับภาชนะปลูกได้ง่าย สำหรับไม้ที่ถอดกระถางออกแล้วสามารถนำลงปลูกต่อในภาชนะที่เตรียมไว้ได้เลย
ภาชนะที่สามารถใช้ปลูกได้ก็มีหลายแบบด้วยกัน ตั้งแต่กระเช้าพลาสติก กระเช้าไม้สัก 4 เหลี่ยม กระเช้าไม้สัก 8 เหลี่ยม กระถางดินเผา หรือว่าขอนไม้
กระเช้าพลาสติก โดยปกติจะมีอายุใช้งานยาวนาน เพราะแทบไม่ย่อยสลายเลย หลังจากเอากล้วยไม้ใส่ลงในกระเช้าพลาสติกได้แล้ว ให้ใช้ฟิวส์เส้นเล็กยึดลำต้นกับกระถางหรือลวดแขวนให้ต้นมีสภาพมั่นคงมากที่สุด
ไม่คลอนแคลนโยกไปโยกมา แล้วใช้ถ่านทุบวางในกระเช้าซักเล็กน้อยเพื่อกักเก็บความชื้น หรือจะไม่ใส่เลยก็ได้
เรื่องที่มาโดย : Apipan Paramaputi
ภาพประกอบสวยๆโดย : จิม ออร์คิดส์รายละเอียดมีต่อด้านล่าง
V
V
โดย: panurat เวลา: 2014-8-28 08:39
กระเช้าไม้สัก ( 4 เหลี่ยม / 8 เหลี่ยม ) โดยปกติอายุการใช้งานจะอยู่ประมาณ 3 -4 ปี มากกว่านี้ส่วนใหญ่กระเช้าก็จะเริ่มผุมากแล้ว
ข้อดีของการใช้กระเช้าที่ทำจากไม้สักก็คือ 1 ตัวเนื้อไม้จะช่วยกักเก็บความชื้นไว้ให้ต้นไม้ได้ 2 ส่วนของเนื้อไม้ที่เริ่มย่อยสลายตัวสามารถเป็นอาหารและถูกดูดซึมผ่านทางระบบรากของกล้วยไม้ได้ 3 อากาศไหลเวียนภายในกระถางได้ดี ทำให้อากาศถ่ายเท
โดยปกติถ้าปลูกลงในกระเช้าไม้สักแล้วอาจไม่จำเป็นต้องใส่ถ่านเพิ่มเพราะตัวเนื้อไม้เองก็ช่วยกักเก็บความชื้นไว้ส่วนหนึ่ง แต่สำหรับในบางพื้นที่ที่น้ำระเหยไว การใส่เครื่องปลูกก็อาจยังจำเป็นอยู่ เครื่องปลูกอาจใช้ถ่านทุบเป็นก้อนใส่ไว้ในกระเช้าก็ได้ เน้นให้ชื้นแต่ไม่ให้แฉะ
กระถางดินเผา อายุการใช้งานยาวนาน เนื่องจากวัสดุแทบไม่ย่อยสลายเลย ข้อดีของกระถางดินเผาก็คือแข็งแรง แล้วยังเย็น แถมยังสามารถกักเก็บความชื้นไว้ในตัวเนื้อดินเผาได้บางส่วน แต่ข้อเสียของกระถางดินเผาก็คือ มีน้ำหนักมาก และสามารถแตกได้ถ้ามีวัตถุแข็งอื่นมากระแทก
ขอนไม้ อายุการใช้งานจะขึ้นอยู่กับขนาดของขอนและเนื้อไม้ที่นำมาใช้ ถ้าขอนมีขนาดใหญ่อายุการใช้งานก็จะนานหลายปี แต่ถ้าเป็นขอนเล็กๆ ก็มีอายุใช้งานตั้งแต่ 1 -3 ปี การใช้งานประเภทขอนไม้ขนาดกลางที่ยังสามารถนำขึ้นแขวนได้อยู่
หากต้องการลดน้ำหนักของขอนลงอาจใช้สว่านดอกใหญ่เจาะทะลุที่ขอนไม้ให้กระจายหลายๆรูเป็นเป็นการลดน้ำหนักของขอนไม้ลงได้ และเรายังอาจใช้รูเหล่านี้ในการยึดหรือรั้งต้นได้อีก
ส่วนอีกประเภทคือขอนไม้ที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากไม่สามารถนำขึ้นแขวนได้ อันนี้ต้องวางกับพื้นแล้วมัดต้นกล้วยไม้เข้ากับขอนหรือตอไม้ ข้อดีของขอนหรือตอไม้จะคล้ายๆกับการปลูกลงกระเช้าไม้สัก
ส่วนการเปลี่ยนภาชนะปลูกจากกระเช้าไม้สักไปสู่ภาชนะปลูกอื่นๆ ก่อนอื่นก็เอาน้ำฉีดพ่นที่กระเช้าไม้เดิมให้ชุ่ม แล้วทิ้งไว้สักครู่ แล้วค่อยๆแกะรากออก
ในกรณีทีกระเช้าเดิมผุมากแล้วการแกะรากออกจะทำได้ง่ายและสะดวกมาก แต่ถ้ากระเช้าเดิมยังแข็งแรงอยู่ การแกะรากอาจทำได้ยากอยู่สักหน่อย หากประเมินแล้วรากจับกระเช้าเดิมแน่นและมีปริมาณมาก
ผมแนะนำให้สวมกระเช้าเลย รากจะช้ำน้อย ต้นจะฟื้นไว หรือไม่เช่นนั้นก็ตัดรากบางส่วน แต่พยายามตัดให้ติดรากมากที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วจับปลูกลงวัสดุใหม่ที่ได้เตรียมเอาไว้ก็ได้ครับ แต่วิธีหลังต้นไม้จะใช้เวลาพักฟื้นมากกว่าการสวมกระถาง
แต่ถ้าพูดกันในแบบระยะยาว การถอดกระถางเก่าออก จะดูสวยกว่าและดูแลง่ายกว่าครับ
ยินดีต้อนรับสู่ ตลาดเกษตร (http://www.farmthailand.com/webboard/) |
Powered by Discuz! X3.1 |