การเกษตร ข่าวเกษตร แหล่งรวมความรู้ด้านการเกษตรในประเทศไทย
เชอรี่เป็นผลไม้ลูกเล็กๆ ผลจะมีสีแดงเข้ม สีส้ม และสีเหลือง ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ เชอรี่จะเป็นผลไม้ที่ชอบอากาศหนาวเย็น จึงมีปลูกกันเป็นจำนวนมากทางทวีปยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น สำหรับในประเทศไทยก็จะนิยมปลูกกันทางภาคเหนือของประเทศ แต่ในปัจจุบันเราสามารถพบการปลูกเชอรี่ในภาคอื่นๆ ของประเทศได้เช่นเดียวกัน แต่รสชาติอาจจะแตกต่างกันออกไป เชอรี่จะมีอยู่ด้วยกันสองสายพันธุ์ คือ เชอรี่ที่มีรสชาติหวาน และแบบที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว สำหรับการรับประทานนอกจากจะนิยมรับประทานแบบผลสดๆ กันแล้ว ยังมีการนำเชอรี่มาแปลรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ กันอีกหลายชนิด เช่น น้ำเชอรี่ แยมเชอรี่ เชอรี่เชื่อม พายเชอรี่ เป็นต้น
ปลูกเชอร์รี่แบบประหยัดพื้นที่.. วิธีนี้บ้านใครก็ปลูกได้
การปลูกเชอรี่ในภาชนะ
สำหรับการปลูกเชอรี่ในปัจจุบันจะมีทั้งแบบที่ปลูกเป็นแปลงลงดิน และปลูกในกระถางหรือภาชนะเพื่อเป็นการประหยัดเนื้อที่ และได้มีการทดลองพบว่าการปลูกเชอรี่ลงในภาชนะจะทำให้เชอรี่ออกผลได้ดีกว่าการปลูกลงดิน และยังใช้พื้นที่น้อยการบำรุงรักษาก็ง่ายกว่า ที่สำคัญยังพบว่าผลเชอรี่ที่ได้มีรสชาติดีกว่ากันอีกด้วย นอกจากนี้ถ้าเกษตรกรต้องการปลูกขายแบบเป็นต้น การปลูกเชอรี่ในภาชนะก็สามารถขายได้ง่ายกว่า และสะดวกในการเคลื่อนย้ายกว่าแบบปลูกลงดิน ต้นเชอรี่นอกจากจะมีประโยชน์ในการรับประทานผลแล้ว ยังสามารถนำมาทำเป็นไม้ประดับเพื่อเพิ่มบรรยากาศให้ภายในบ้านร่มรื่นและดูสวยงามได้อีกด้วย
วิธีการปลูกเชอรี่ในภาชนะและการเตรียมอุปกรณ์
วัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการปลูกจะได้แก่
- กระถางพลาสติก กระถางดินเผา ปีบ ถังน้ำ กะละมัง หม้อ ตุ่มใส่น้ำ ยางรถยนต์ โอ่งใส่น้ำ วงบ่อซีเมนต์ เป็นต้น
- ดินดำ, แกลบดิบ (เปลือกข้าว), มูลสัตว์ เช่น มูลวัว มูลควาย เป็นต้น
ปลูกเชอร์รี่แบบประหยัดพื้นที่.. วิธีนี้บ้านใครก็ปลูกได้
วิธีการปลูก
ใส่ดินดำ 1 ส่วน แกลบดิบ 2 ส่วน มูลสัตว์ 1 ส่วน ลงในภาชนะที่จะทำการปลูก จากนั้นนำต้นกล้าหรือเมล็ดลงปลูก รดน้ำให้ดินชื้นพอหมาดๆ อย่าลดมากจนเกินไป จากนั้นให้หมั่นใส่ปุ๋ยเป็นระยะๆ หรือประมาณ 15 วันครั้ง โดยใช้เป็นปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยมูลสัตว์ และควรหมั่นดูแลรักษาไม่ให้แมลงรบกวน เพียงเท่านี้เมื่อเวลาผ่านไปคุณก็จะได้ต้นเชอรี่ที่สมบูรณ์แข็งแรง
สำหรับใครที่สนใจการปลูกเชอรี่ในภาชนะ ที่ช่วยให้คุณสามารถประหยัดเนื้อที่ในการเพาะปลูก และให้ได้ผลผลิตดีมีรสชาติหวานอร่อย สามารถโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกันได้ที่ ฝ่ายนวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โทร. 0-5387-3938-9 ในวันและเวลาราชการ
